‘สว.นันทนา’ ยื่น ประธานรัฐสภา ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจที่ขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภา
‘สว.นันทนา’ ยื่น ประธานรัฐสภา ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจที่ขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภา หลังมติ คกก.วุฒิสภา ใช้เสียงข้างมากส่งเรื่องไป ป.ป.ช. ปมด้อยค่า ‘คนขายหมู’ ชี้ เป็นการทำลายผู้เห็นต่าง นำไปสู่ความล้มเหลวของฝ่ายนิติบัญญัติ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มอบหมายให้ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก น.ส.นันทนา นันทวโรภาส และนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อขอให้ประธานรัฐสภาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภาอันจะนำไปสู่ความล้มเหลวของฝ่ายนิติบัญญัติ
ตามที่ได้มีผู้ร้องมายังคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภาว่า น.ส.นันทนา ทำผิดจริยธรรรมด้วยการดูหมิ่นด้อยค่า ‘คนขายหมู’ ซึ่งเป็น สว. โดยคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภาได้สอบสวน และนำรายงานเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568
คณะกรรมการฯ รายงานผลการตรวจสอบมาตรฐานทางจริยธรรมของ น.ส.นันทนา ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาเห็นว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 4, 27, 34, 50 (3) และ (6) และ 107 โดยที่ประชุมวุฒิสภาลงมติด้วยเสียงข้างมาก 130 เสียง เห็นว่า น.ส.นันทนา กระทำการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง และจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ต่อไป
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของวุฒิสภา ถือเป็นการอคติ กลั่นแกล้ง เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.นันทนา เปิดโปงเรื่อง การฮั้ว สว. และเรียกร้องให้ สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
การทำหน้าที่ของ น.ส.นันทนา เป็นไปอย่างเปิดเผย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ จึงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก แต่อาจเป็นการขัดต่อผลประโยชน์ของ สว.เสียงข้างมาก เห็นได้จากการที่กลุ่ม สว.เสียงข้างมาก พยายามขัดขวางการอภิปรายในสภาฯ ของ น.ส.นันทนา แทบทุกครั้ง
การที่วุฒิสภามีมติให้การวิพากษ์วิจารณ์การคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นกรรมาธิการแบบผิดฝาผิดตัวเป็นความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง สะท้อนถึงการใช้ดุลยพินิจที่ขาดความชอบธรรมในการตัดสิน อีกทั้งการพิจารณาโทษที่รุนแรงไม่ได้สัดส่วนกับการกระทำ ถือเป็นการทำลายล้างทางการเมือง สร้างบรรยากาศแห่งความกลัว ทำให้ สว. ขาดอิสระในการแสดงความคิดเห็น ยิ่งไปกว่านั้น คณะกรรมการฯ มี สว. ที่ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. เป็นกรรมการอยู่ 15 คน ถือเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับผู้ถูกกล่าวหา จึงไม่ควรมีสิทธิเป็นกรรมการพิจารณาตัดสิน
การกระทำของคณะกรรมการฯ และที่ประชุมเสียงข้างมาก จึงถือเป็นการทำลายนิติรัฐของวุฒิสภาลง วุฒิสภาได้ใช้เสียงข้างมากกำจัดผู้เห็นต่าง หรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ถือเป็นอันตรายต่อระบบรัฐสภา ขัดหลักประชาธิปไตย และหลักนิติธรรม จึงขอให้ประธานรัฐสภาตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจที่ขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภาอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาเสื่อมถอย กลายเป็นสภาฯ ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ใช้อำนาจล้นเกิน ทำลายผู้เห็นต่างอย่างไม่ชอบธรรม อันจะนำไปสู่ความล้มเหลวของฝ่ายนิติบัญญัติ
นางสาวนันทนา กล่าวทิ้งท้ายว่า การมาร้องเรียนตรงนี้ ประธานรัฐสภาจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่จะบอกว่าเราจะรักษารัฐสภาไว้ได้อย่างไร ถ้าวุฒิสภาใช้เสียงข้างมากโดยไม่มีธรรมาภิบาลจัดการกับคนเห็นต่าง จึงเรียกร้องว่ารัฐสภาจะต้องสง่างาม มีธรรมาภิบาล ทั้งวุฒิสภาแ ละสภาผู้แทนราษฎร จะต้องใช้เสียงข้างมากอย่างมีธรรมาภิบาล ไม่ใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือพวกพ้อง












