ตร. แถลงผลการปราบอาชญากรรมออนไลน์ 4 คดี ทลายแก๊งคนจีนใช้ไทยเป็นฐานหลอกลวงข้ามชาติ
วันนี้ (24 ต.ค. 68) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ /รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลการปราบปรามผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ห้วงวันที่ 21-23 ตุลาคม 2568 จำนวน 4 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 ผู้เสียหายถูกคนร้ายหลอกลวงเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง อำนวยความสะดวกเงินเกษียณอายุข้าราชการ หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน 252,200 บาท ต่อมาตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองขาม และสถานีตำรวจภูธรศรีราชา ตรวจสอบธนาคารที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายกำลังรอถอนเงินสดนำไปให้นายธนพงษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำเงินสดให้ไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวนายธนพงษ์ พร้อมแจ้งข้อหา “เปิดหรือยินยอม และสนับสนุนให้ผู้อื่นเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย
คดีที่ 2 ตำรวจ ศปอส.ภ.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง 4 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น ตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ต.สำราญ อ.เมือง พบชายชาวจีน 4 คน และหญิงชาวเมียนมา 1 คน เช่าบ้านหรูเปิดฐานปฏิบัติการหลอกคนจีนข้ามประเทศ สร้างแพลตฟอร์มปลอมเทรดทองคำหลอกคนจีน ใช้ไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
จากการตรวจค้นพบของกลาง คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 27 เครื่อง เครื่องขยายสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4 เครื่อง เงินสด 140,650 บาท และสมุดบัญชีธนาคารประเทศเมียนมา จึงแจ้งข้อหา “อั้งยี่, ซ่องโจร, เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาต และไม่แจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าหน้าที่” อยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเครือข่ายเชื่อมโยงอาชญากรรมข้ามชาติ
คดีที่ 3 ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ร่วมกับตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 จับกุม นายหู สัญชาติจีน พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง บัตร atm ธนาคาร 2,057 ใบ และเงินสด 537,900 บาท พร้อมแจ้งข้อหา “มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบไว้ในครอบครอง และ เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่น ๆ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 4 ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 พบพฤติการณ์กลุ่มคนร้ายรวม 15 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งพัสดุหลอกลวงผู้เสียหายที่หลงเชื่อรับพัสดุที่ไม่ได้สั่ง แล้วเก็บเงินปลายทาง (COD) จนเกิดความเสียหาย โดยตรวจสอบพบว่า นายรัศมิธ์ศิลป์ส่งพัสดุ 47,244 ชิ้น รวมยอด COD ที่จะได้รับ 10,680,668 บาท นายชัยวัฒน์จัดส่งพัสดุ 22,500 ชิ้น จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้าย เดือนกันยายน 2568 มีการโอนเงินจากบริษัทขนส่งให้นายชัยวัฒน์รวม 1,440,328 บาท นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบโกดังเก็บสินค้า พบว่านางสาวรัชฎาภรณ์ เป็นเจ้าของ จึงดำเนินการจับกุม












