POLITICS

‘โรม’ ชี้ ไม่เคยทราบ ’ภูมิใจไทย’ จะทำประชามติยกเลิก MOU 43-44 พร้อมเลือกตั้ง

‘โรม’ ชี้ ไม่เคยทราบ ’ภูมิใจไทย’ จะทำประชามติยกเลิก MOU 43-44 พร้อมเลือกตั้ง หวั่น เผยความลับชาติ ให้กัมพูชารู้ ชี้ แม้กระทั่งสภาฯ ยังเป็นประชุมลับ เหตุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จี้ ’อนุทิน‘ คิดแจงประชาชน

วันนี้ (1 ต.ค. 68) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลังจากที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะทำประชามติ ยกเลิก MOU 43 และ 44 ในฐานะที่เป็นประธานกมธ. เห็นด้วยที่จะยกเลิกและทำประชามติหรือไม่ ว่า เมื่อวาน (30 ก.ย.) ตนเองได้อภิปรายเรื่องนี้ ถ้าจะทำประชามติ ต้องทำให้ประชาชนมีข้อมูลพอ แต่ก่อนที่จะทำให้ประชาชนมีข้อมูลพอ เราต้องยอมรับกันก่อนว่าเรื่อง MOU เป็นข้อมูลละเอียดอ่อนหลายอย่าง ไม่เช่นนั้นสภาฯ คงไม่มีการประชุมลับ คำถามของตนเองคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะทำอย่างไรที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลในการตัดสินใจ เรื่องนี้โดยฝ่ายกัมพูชาไม่รู้ ซึ่งอาจจะมีวิธีก็ได้แต่ตนเองยังไม่รู้ แต่หากไม่มีวิธีแล้วฝ่ายกัมพูชารู้ จะส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของชาติหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ตนเองพยายามถามแต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอสื่อมวลชนช่วยถามนายอนุทิน ให้ด้วยว่าตกลงทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นสภาฯ จะประชุมลับกันไปทำไม และมากไปกว่านั้นสภาฯ ยังมีการตั้งกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ ที่นำโดยนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และแม้กระทั่ง สส. และ สว. ด้วยกัน ตนมั่นใจว่าแต่ละคนก็มีข้อมูลไม่เท่ากัน ดังนั้น เมื่อจะตัดสินใจไปลงประชามติ เรื่องที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า อย่างเช่นรัฐธรรมนูญ ยังใช้เวลาศึกษานาน ซึ่งต้องคิดให้รอบคอบ ตนเองขอยกตัวอย่างความท้าทายต่อไป ว่าหากยกเลิกไปแล้วกัมพูชาอ้างว่า ต่อไปไม่มีกลไก คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) กัมพูชาจะใช้เหตุนี้อ้างเพื่อไปศาลโลก หรือหากเราไม่มี MOU 43 แล้ว จะต้องมีอะไรมาแทนหรือไม่ จะต้องมีแผนหลายขยัก และต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบ หรือแม้กระทั่ง MOU 44 การเอาผลประโยชน์ทางทะเล ไปปนกับเรื่องการที่จะต้องมาตกลงเรื่องอาณาเขตทางทะเล ก็อาจจะมีปัญหาบางอย่าง ขณะเดียวกันเราก็ต้องดูว่าบางบริษัทเดียวกันที่ได้ลงทุนไปแล้ว จะมาฟ้องประเทศไทยหรือไม่ กลัวว่าจะซ้ำรอยกรณีคิงส์เกต เรื่องเหล่านี้มีรายละเอียดไม่ใช่ใครจะตัดสินใจได้ทันที การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ง่าย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจุดยืนของตนคือเอาข้อมูลมากาง ยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำประชามติยกเลิก MOU เพื่อหวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้ง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มองว่าเป็นภาระของนายอนุทิน ที่จะต้องอธิบาย พวกตนเองไม่เคยรู้มาก่อน ว่าจะมีการเสนอให้ทำประชามติเรื่องนี้ จึงเป็นภาระของพรรคภูมิใจไทยที่ต้องอธิบายเรื่องนี้ และทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลที่ดี และเป็นภาระของพรรคภูมิใจไทยที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ไม่ให้ความลับของชาติตกไปอยู่ในมือของกัมพูชา นั่นคือสิ่งที่นายอนุทินต้องตอบคำถาม

เมื่อถามต่อว่าหากยังเดินหน้าทำประชามติเรื่องนี้ จะเป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่า นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แน่นอนว่ามีข้อกังวลหลายด้าน แต่อยู่ที่ว่าใครจะพูด บางคนบอกว่าทำประชามติแล้วจะเกิดความสับสนหรือไม่ แต่แน่นอนว่าเรื่องความสับสน ค่อยมาหาทางกัน แต่ส่วนตัวของตนนั้นคิดว่ามาคุยกันเรื่องหลักดีกว่า เพราะตนเป็นห่วงเรื่องผลประโยชน์ของชาติ

Related Posts

Send this to a friend