’อนุทิน’ ชี้ ไม่มีอิทธิพลใดมากดดันใหัชะงักต่อการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ในกัมพูชา
’อนุทิน’ ชี้ ไม่ได้สนิทกับผู้นำกัมพูชา ไม่มีอิทธิพลใดมากดดันใหัชะงักต่อการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ เผย เมื่อก่อน ‘มหาดไทย – ตำรวจ’ ทำงานคนละทาง เพราะผู้นำต่างพรรค หากวันนี้ไม่สำเร็จ โทษตนเองได้เลย ย้ำ รัฐบาลสนับสนุนปราบยาเสพติด เชื่อในฝีมือตำรวจไทย
วันนี้ (1 ต.ค. 68) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างถาวรในรัฐบาลนี้ ว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศที่ใหญ่ที่สุด วันนี้ตนได้มากำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคนเดียวกัน ตนก็จะเร่งแสวงหาความร่วมมือจากตำรวจ กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อสนธิกำลังกันได้เราก็จะใช้โอกาสนี้สร้างกลไกในการกวาดล้างให้สิ้นซากได้ โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนมาตรการ และความเด็ดขาดในการจัดการจะแตกต่างจากรัฐบาลอื่นอย่างไรนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ตนได้ให้ความสนใจส่วนตัว และรวบรวมติดตามปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดหลายครั้ง ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าประสิทธิภาพ และการทำงานของตำรวจไทย จะสามารถดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดได้แน่นอน ซึ่งรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ส่วนการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น นายอนุทิน เผยว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นภัยความมั่นคงต่อประเทศชาติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เราจะกระชับความร่วมมือซึ่งกันและกัน เมื่อก่อนการปฏิบัติการของกระทรวงมหาดไทย อาจจะไปทางหนึ่ง ตำรวจไปอีกทางหนึ่ง เนื่องจากผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานมาจากคนละซีก คนละพรรคการเมือง อาจจะไม่คล่องตัว แต่หากวันนี้ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็เป็นเพราะตน รวมทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์ในยุคนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคง เรื่องสแกมเมอร์ การค้ามนุษย์ ยาเสพติด การค้าประเวณี อาวุธปืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่เราจะสามารถกระชับความร่วมมือซึ่งกันและกัน
“สมัยก่อนมหาดไทยไปทาง ตำรวจไปทาง บางทีผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจจะมาจากคนละซีกคนละพรรคการเมือง อาจจะไม่คล่องตัว แต่วันนี้ไม่มีข้อแก้ตัว ถ้าทำไม่สำเร็จก็เป็น เพราะผมนี่แหละ“ นายอนุทิน กล่าว
ส่วนการจัดระดับรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ของประเทศไทย ที่ยังคงอยู่ระดับเดิมนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว มีการเร่งปราบปรามมาโดยตลอด วันนี้จะเห็นได้ว่ามีแรงงานชาวเมียนมาเพิ่มเข้ามาในระบบแรงงานมากขึ้น ยิ่งมีการเพิ่มเข้ามาตามระบบมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ลดลง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ว่า กระบวนการคอลเซ็นเตอร์ของกัมพูชา มีความสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เขาไม่ได้สนิทกับนายกฯ ปัจจุบัน ไม่มีความสนิทกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จึงไม่มีอิทธิพลใดๆ ที่จะมากดดันให้เราชะงัก
“มั่นใจว่าไม่ได้สนิทกับ ผบ.ต่าย และแน่นอนว่าไม่ได้สนิทกับผม เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรไปติดค้างเขา“ นายอนุทิน กล่าว












