‘อนุทิน’ ไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกเปิดตัว ‘พล.อ.ณัฐพล’ นั่ง รมว.กลาโหม
‘อนุทิน’ ไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกเปิดตัว ‘พลเอกณัฐพล’ นั่ง รมว.กลาโหม ลุยแก้ปัญหาชายแดน บินประชุม GBC พรุ่งนี้ ด้าน ‘พลเอกประวิตร’ ส่งดอกไม้ร่วมแสดงความยินดี
วันนี้ (8 ก.ย. 68) พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทย เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงานโดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพลเอกณัฐพล มีชื่อปรากฏว่าได้รับทาบทามให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ภายหลังการหารือ นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นสิ่งที่ตนเองปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วัน เมื่อได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ โดยได้เชิญพลเอกณัฐพล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของน่งสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ท่านช่วยรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อที่จะได้เกิดความมั่นใจว่าภารกิจ หน้าที่การดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ดำเนินต่อไปโดยไม่มีสะดุดหรือชะงัก ศัพท์ทหารคือ “เปลี่ยนม้ากลางศึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร”

พลเอกณัฐพล ได้ถามตนเองในประเด็นที่สำคัญคือ ท่านจะมีอำนาจขอบเขตในการปฏิบัติภารกิจแค่ไหน ตนเองยืนยันว่ามีอำนาจเต็ม ตนเองไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการทหาร แต่ท่านเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก เป็นเสนาธิการทหารบก เป็นรองผู้บัญชาการทหารบก เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และตนเองทำงานกับท่านอย่างใกล้ชิดในช่วงที่เราจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านโควิด-19 ท่านก็เป็นเลขาธิการศูนย์ เราทำงานกันมา มีความสัมพันธ์ที่ดี มีความเข้าใจในการทำงาน ยอมรับซึ่งกันและกัน ถือว่าการกำกับดูแลกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของตนเอง มีความจำเป็นต้องได้พลเอกณัฐพล มาดูแลงานด้านนี้
ตนเองขอให้ชีวิตของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ มีความเป็นปกติสุข มีสันติภาพ มีภราดรภาพ มีวิถีชีวิตที่สามารถทำมาค้าขายซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้รายได้ขาดหาย เนื่องจากความไม่เข้าใจหรือปัญหาที่พวกเขาไม่ได้ก่อ ส่วนที่มีข้อเรียกร้องในการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เราเสนอไปแล้วว่าจะให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการดำเนินงานในฝ่ายนิติบัญญัติ
ส่วนการบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ พลเอกณัฐพล จะเดินทางไปประชุม GBC ที่ประเทศกัมพูชา จึงต้องเจรจากับพลเอกณัฐพล ในฐานะว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้ฝ่ายกัมพูชารู้ว่าผู้ที่ไปเจรจาคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น
ส่วนการลงพื้นที่ รับฟังปัญหาในจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทิน กล่าวว่าการลงพื้นที่ของตนเองนั้น ทำในหน้าที่ สส.อยู่แล้ว เช่น พื้นที่อีสานใต้ ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มี สส.ของพรรคภูมิใจไทยอยู่ในพื้นที่ ตนเองไม่อยากทำอะไรที่ก้าวล่วงอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันยังต้องรักษาการอยู่ จนกว่ารัฐบาลจะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้นต้องรักษาน้ำใจกัน ซึ่งในเขตพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นเขตที่เหมือนบ้านของพวกตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นการไปดูแลประชาชนเป็นสิ่งที่ปฏิบัติมาโดยตลอดไม่มีอะไร ส่วนการช่วยเหลือก็มีรัฐบาลรักษาการ ช่วยเหลืออยู่แล้ว

พลเอกณัฐพล เปิดเผยว่าขอไม่พูดเรื่องอดีตที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า มีความลำบากใจในการทำงานด้านการทหารขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย. 68) ต้องเดินทางไปประชุม GBC ที่กัมพูชา ซึ่งในวันนี้นายอนุทิน ได้มอบหมายให้เลขาติดต่อมาหาตนเอง เพื่อเข้ามาพูดคุย จึงถือโอกาสดีที่จะได้เข้ามารับทราบนโยบาย เพื่อไปใช้ประกอบในการประชุมในวันพรุ่งนี้
หลังจากได้มีการพูดคุยก็มีความมั่นใจ หลังได้ทราบนโยบายที่ชัดเจน โดยเน้นย้ำเรื่องของอธิปไตยและการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและประชาชนปลอดภัย ก่อนที่ตนเองจะได้เสนอโรดแมปที่ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งนายกฯ ก็เห็นด้วยแต่ได้ทลายข้อจำกัด เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด จึงต้องดำเนินการเรื่องแก้ปัญหาประชาชนให้เร็วที่สุด
ส่วนโรดแมปที่ดำเนินการอยู่ จะสามารถดำเนินการต่อให้พลิกสถานการณ์ให้ได้ภายใน 4 เดือนหรือไม่ พลเอกณัฐพล ยังกล่าวว่าต้องทำให้เต็มขีดความสามารถ แต่เราไม่สามารถจะรับปากได้ว่าเมื่อไหร่ แต่เมื่อรับทราบนโยบายในวันนี้แล้วก็รับปากว่าจะทำให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ นายอนุทิน พาพลเอกณัฐพล ดื่มกาแฟที่ร้านจาริสตาร์ โดยนายอนุทินสั่งกาแฟอเมริกาโนร้อนและเค้กกาหยู พลเอกณัฐพล ดื่มน้ำส้มยูสุโซดาและเค้กแครอท เนื่องจากเค้กส้มหมด
โดยระหว่างที่ได้มีการดื่มกาแฟร่วมกัน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาร่วมวง และเป็นตัวแทนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในการมอบดอกไม้แสดงความยินดี โดยมีการ์ดข้อความจากพลเอกประวิตร ระบุว่า “ขอแสดงความยินดีให้กับท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 32”













