‘ทวี‘ ชี้ การตกลงกันของ ปชน. – ภท. เป็นการทำลายประชาธิปไตย
‘พ.ต.อ.ทวี‘ ไม่เห็นด้วยเลื่อนวาระโหวตนายกฯ ชี้ การตกลงกันของ ปชน. – ภท. เป็นการทำลายประชาธิปไตย มอง ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ด้าน ‘ณัฐพงษ์’ ใช้สิทธิ์พาดพิง โต้ เป็นผลจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว
วันนี้ (5 ก.ย. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ซึ่งกำลังอภิปรายก่อนการลงมติเลื่อน หรือไม่เลื่อนระเบียบวาระการเลือกโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐบาล คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ตนเองเห็นว่าการเลือกนายกฯ ครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างภูมิใจไทย และพรรคประชาชน กรณีเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่บ่อนเซาะประชาธิปไตย และทำลายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าว มีในข้อ 4 เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะยุบสภาภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องดำเนินการด้วยวิธีใด ๆ เพื่อรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และลงชื่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นเสาหลัก จริงอยู่ที่นายอนุทิน มากจากพรรคการเมือง แต่เมื่อมีข้อตกลงดังกล่าว อาจทำให้เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตราที่ 49 คือ การกระทำห้ามบุคคลใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง แม้จะไม่ถึงโดยตรง แต่เป็นการกร่อนเซาะบ่อนทำลายกระบวนการการตั้งรัฐบาลโดยเสรี ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราต้องยอมรับว่ารัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตนเองยังไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติ และหากได้พูดจะบอกว่าเป็นอาชญากรรมทางการเมืองอย่างไร และควรยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่อาจถึงการยุบพรรคการเมือง และที่สำคัญคือเขาคำนึงถึงเสียงบ้างมาก และมาตราในรัฐธรรมนูญให้ สส. ไม่ถูกครอบงำใด ๆ นี่เป็นการครอบงำ และแลกผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คืออีกฝ่ายเป็นรัฐบาล และอีกฝ่ายได้แก่รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เห็นหัวประชาชน ตนเองจึงเห็นว่าควรเลื่อน และการเลือกนายกฯ ควรมีการวินิจฉัยให้ถ่องแท้ เพราะเริ่มต้นก็ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทำลายประชาธิปไตยอย่างรุนแรง และน่าเสียดายที่พรรคที่ประกาศตัวเองว่ายึดมั่นในประชาธิปไตย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ใช้สิทธิ์พาดพิงแม้จะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อพรรคประชาชนอย่างชัดเจน แต่ขอย้ำว่าขณะนี้กำลังอภิปรายญัตติเลื่อนระเบียบวาระการเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกับการโหวตเลือกนายกฯ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาฯ ทั้งความสับสนจากสมาชิกตกลงเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ความสับสนในการกล่าวชื่อพรรคการเมืองผิดว่า ตนเองสังกัดอยู่พรรคใด
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว จึงเป็นที่มาของวันนี้ที่เราต้องเปิดประตูหาทางออกให้กับประเทศมุ่งหน้าสู่การยุบสภาจะทัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่อยากเรียกร้องต่อประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ สมาชิก ผู้บริหารของแต่ละพรรคการเมือง เรามีญัตติโหวตเลือกนายกฯ หากเห็นว่าเป็นญัตติสำคัญจำเป็นต้องเลื่อนขึ้นมาก่อน ขอให้ผู้บริหารทุกพรรคขึ้นมายืนยันว่า หากจะโหวตนายกฯ ก่อนจะอยู่เป็นองค์ประชุมและพิจารณาจบในกฎหมายทุกฉบับที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อยืนยันว่าสภาฯ เป็นหลักยึดให้กับประชาชนได้ ไม่ใช่โหวตนายกฯ เสร็จแล้วก็กลับบ้านกันไป












