POLITICS

ศบ.ทก. เผย จ่อชง สมช. สร้างรั้วพื้นที่ บ.หนองจาน-บ.หนองหญ้าแก้ว 16 กม.

ศบ.ทก. เผย เตรียมประชุม GBC นัดต่อไป 7-10 ก.ย.นี้ จ่อชง สมช. สร้างรั้วพื้นที่บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว 16 กิโลเมตร เดินหน้าสำรวจการครอบครองสิทธิที่ดิน เล็งใช้กฎหมายเอาผิดชาวกัมพูชารุกป่า ใช้วงเจรจาออตตาวาชี้แจงข้อเท็จจริงปมทุ่นระเบิด

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) และโฆษกกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมประจำวันที่ 3 กันยายน 2568

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ยังคงมีการตรึงกำลังของทั้งสองฝ่าย โดยทั่วไปอยู่ในภาวะสงบ ขณะที่ผลการดำเนินงานของคณะทำงานผู้สังเกตการณ์ทั่วไป (IOT) กองบัญชาการกองทัพไทยนำคณะลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กสังเกตหลักเขตแดนที่ 73 หลักเขตแดนสุดท้ายทางบก แสดงการปักปั่นเขตแดนที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดเล็ก จ.ตราด ก่อนเดินทางไปยังกองร้อยทหารพรานที่ 537 เยี่ยมชมและรับทราบการเก็บกู้ทุนระเบิดของกองทัพเรือ ก่อนเยี่ยมชมบ้านเขาล้าน ซึ่งเป็นศูนย์อพยพของชาวกัมพูชาในอดีต

ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญครั้งที่ 2/2568 มีกำหนดจัดวันที่ 7-10 กันยายน 2568 จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา รูปแบบการประชุมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การประชุมของฝ่ายเลขานุการร่วม วันที่ 7-9 ก.ย. ส่วนวันที่ 10 ก.ย. จะเป็นการประชุม GBC หลัก

สำหรับพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว มีแผนจัดสร้างรั้วระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 50-51 ซึ่งเป็นหลักเขตแดนที่สำรวจและได้ข้อยุติแล้ว จะมีการสำรวจสิทธิการครอบครองที่ดินอย่างละเอียด ตลอดจนมีมาตรการดำเนินการตามกฎหมายของไทยในการประกาศใช้กฎหมายกับชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ และแจ้งความราษฎรกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ โดยที่ประชุมศบ.ทก. จะนำข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อขออนุมัติในวาระต่อไป

นางมารตี กล่าวว่า วันที่ 26-28 สิงหาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปที่นครเจนีวา นำข้อมูลสถานการณ์ โดยเฉพาะการวางทุ่นระเบิดไปชี้แจงกับบุคคลสำคัญต่าง ๆ เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะปฏิบัติภายใต้อนุสัญญา ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการผลักดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามอนุสัญญา

นายมาริษใช้โอกาสนี้ประกาศว่าไทยจะเข้าร่วมโครงการรณรงค์ของสหประชาชาติในการลดอาวุธเพื่อมนุษยธรรม และการดำเนินการด้านทุ่นระเบิด ทั้งนี้ เพื่อนำกัมพูชาเข้าสู่การปฏิบัติการตามพันธะกรณีโดยสมบูรณ์ ไทยต้องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับกัมพูชาภายใต้กลไกทวิภาคี และข้อตกลงการหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย เพื่อคุ้มครองชีวิต ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี

ส่วนการบิดเบือนข้อมูลจากสำนักข่าวกัมพูชาเกี่ยวกับอาวุธตกค้างจากฝ่ายไทย บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และฝ่ายกัมพูชายังคงเป็นฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงมาโดยตลอด ทั้งลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และพบการใช้ระเบิดแสวงเครื่องในฝั่งไทย

นอกจากนี้ มีรายงานจากนิตยสารความมั่นคง JANES defence Weekly ว่าจากภาพถ่ายดาวเทียม พบการก่อตั้งการปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชาก่อนเกิดเหตุการณ์ปะทะ สอดคล้องกับท่าทีของไทยที่ชี้แจงมาโดยตลอดว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มการโจมตี ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้หยิบยกมาพูดคุยกับรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วมองว่าการโฆษณาชวนเชื่อของกัมพูชาคือปัญหาระดับโลก บั่นทอนความไว้วางใจระหว่างกัน เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการหาทางออกโดยสันติ

ทั้งนี้ ไทยหวังว่ากัมพูชาจะให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ และไทยยืนยันในการแสวงหาทางออกร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ เพื่อให้ชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลาย ลดความตึงเครียด นำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน

Related Posts

Send this to a friend