’จิรายุ‘ เผย กัมพูชายังละเมิดหยุดยิง กองทัพตรึงกำลัง 7 จังหวัด
’จิรายุ‘ เผย กัมพูชายังละเมิดหยุดยิง ชี้ กองทัพตรึงกำลังเต็มที่ 7 จังหวัดชายแดน
วันนี้ (29 ก.ค. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า มีการสรุปสถานการณ์รัฐบาลได้รับรายงานยังคงมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่หลายจุด เหตุผลที่รัฐบาลยังคงต้องรอเวลาเพราะว่าในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และ 2 จะมีการสรุปสถานการณ์ว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในจุดไหนแบบใด และมีพยานหลักฐานในลักษณะเช่นใดบ้าง
รัฐบาลไทยโดยเฉพาะที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ย้ำว่าให้กองทัพปกป้องอธิปไตย และดินแดนไทยอย่างเต็มที่ ขณะนี้ยังคงตรึงกำลังไว้ก่อน ถือเป็นการรักษาอำนาจอธิปไตยของไทย และดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในจังหวัดชายแดน
ส่วนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและ ศบ.ทก.จะมีการรายงานความคืบหน้าของการรายงาน มีคำแนะนำว่าจะต้องแจ้งให้กับผู้สังเกตการณ์ คือ สหรัฐอเมริกาและจีนโดยรัฐบาลไทยจะมีการทำหนังสือส่งไปยัง 2 ประเทศว่ายังคงมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบไหนอย่างไร
ในกรณีของสื่อกัมพูชาที่มีการรายงานว่าฝั่งกัมพูชามีการหยุดยิงแล้วนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของกัมพูชาที่จะชี้แจงในลักษณะเช่นนี้มาตลอดหลายวันที่ผ่านมา แต่กองทัพไทยยังยืนยันว่ายังคงตรึงกำลัง และรักษาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาก็ยืนยัน 4 ประเด็น ดังนี้
1.ให้กองทัพรักษาธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเต็มที่
2.กรณีการเรียกเอกอัครราชทูตไทยที่ประจำกัมพูชากับประเทศ และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับประเทศ ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว
3.ให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลประชาชนตามแนวชายแดน ส่วนการอพยพกลับ จึงขอให้รอการประเมินผล ศบ.ทก. ในช่วงบ่ายวันนี้หลังจากลงพื้นที่ในการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน โดยให้ ศบ.ทก. ประชุมอย่างต่อเนื่องหากมีเหตุการณ์ด่วนก็สามารถชี้แจงกับพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที
“ยืนยันว่าไทยดำเนินการตามแนวทางการเป็นสุภาพบุรุษ ตามแนวทางการเป็นสุภาพบุรุษทางการทหาร ทั้งทางบก ทางอากาศ เราทำงานในลักษณะกองทัพที่เป็นสุภาพบุรุษเห็นว่าเป้าหมายต่างๆ ของกัมพูชาเราไม่เคยลงไปในพื้นที่พลเรือน ในทางกลับกันที่เป็นที่ประจักษ์ เป็นหลักฐานไปทั่วโลกว่าว่าเราโดนกระทำมาอย่างต่อเนื่อง” นายจิรายุ กล่าว
ด้วยการเจรจาของประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เรายืนยันว่าสันติภาพจะต้องเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ทั้งนั้นในช่วงบ่ายหลังจากมีการส่งข้อความไปยังผู้สังเกตการณ์แล้ว ก็จะมีการนำรายละเอียดเสนอกลับไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และ ศบ.ทก. อีกครั้ง
สำหรับสถานการณ์จะมีการรายงานให้พี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องเป็นรายชั่วโมง เพื่อรับทราบข้อมูลต่าง ๆ อย่างที่ทราบดีว่าฝั่งกัมพูชา ใช้ IO ประเภทแก๊งคอลเซนเตอร์ สัปดาห์หนึ่งเราจะรับ 2 สาย แต่ตอนนี้หายไป เมื่อ 2-3 วันมานี้ มากกว่า 500 ล้านครั้ง ที่ใช้อวตาร IO คนในคอลเซ็นเตอร์ เปลี่ยนภารกิจจากการหลอกลวงมาเป็นภารกิจยุให้คนไทยทะเลาะกันเอง หากพี่น้องประชาชนมีโอกาสตอบโต้ IO กัมพูชาได้ ก็ช่วยกันวันละ 3 ไลก์ 3 ข้อความ
เมื่อถามว่า เอกสารที่ส่งให้กับจีนและสหรัฐอเมริกาจะส่งไปเมื่อไร นายจิรายุ เผยว่า ช่วงบ่ายนี้ที่ประชุมพูดกันเรื่องนี้ว่าเราต้องส่งพยานหลักฐานตั้งแต่ช่วงกลางคืนว่ามีจุดไหนยิงกันบ้างเราตรึงกำลังกันแบบใดบ้าง คาดว่าช่วงบ่ายกระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงเรื่องนี้ว่ามีกี่ข้อ มีกำลังเข้ามาเท่าไร เราดำเนินการแบบไหนอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า เรามีข้อมูลเบื้องต้นหรือไม่ว่าตอนนี้กัมพูชาละเมิดข้อตกลงอย่างไรบ้าง นายจิรายุ กล่าวว่า ทางเพจกองทัพบก และใน ศบ.ทก สมช. ตอนนี้ประชุมร่วมกันอยู่ และมีเลขาสมช. นั่งเป็นประธาน รวมถึงมีการรายงานว่ามีการยิงในระดับแนวหน้า ส่วนรายละเอียดพิกัดกระทรวงกลาโหม และการต่างประเทศจะเป็นผู้อธิบาย
ทั้งนี้เมื่อเรารับคำสั่งหยุดยิงเราประชุมกันแล้ว มีการพูดคุยกันว่ามีการตรึงกำลังไว้ ไม่มีว่า 24:00 น. แล้วกลับบ้าน กองทัพถอย ทุกสิ่งทุกอย่างถอย ไม่มี บางทีเราก็ไม่ได้พูดไป เพราะการตรึงกำลังเราก็ไม่ไว้ใจอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ากัมพูชาพูดอย่างทำอย่าง ฉะนั้น เมื่อวานนี้ (28 ก.ค. 68) ทหารของเราตรึงกำลัง 100% ทั้ง 7 จังหวัด เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ เมื่อเช้านี้เบาลงน้อยกว่าก่อนที่จะมีประกาศหยุดยิง แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด












