‘สนธิญา‘ จ่อยื่นฎีกาตรวจสอบ ‘พีระพันธุ์’ ปมถือหุ้น ขัดคุณสมบัติ รมต.
‘สนธิญา‘ จ่อยื่นฎีกา ตรวจสอบ ‘พีระพันธุ์’ ปมถือหุ้น 4 บริษัท ขัดคุณสมบัติรัฐมนตรี หลังยื่นให้นายกฯ 4 ฉบับ แต่ถูกละเลย-ไร้การตอบรับ
วันนี้ (30 มิ.ย. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีแ ละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และภรรยา เป็นผู้ถือหุ้น โดยบริษัทผู้รับมอบอำนาจในการถือหุ้นได้ส่งเรื่องกลับว่าไม่สามารถรับถือหุ้นแทนได้ ทำให้ขัดต่อคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี
นายสนธิญา กล่าวว่าเรื่องที่มายื่นเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของนายพีระพันธุ์ จากกรณีการถือหุ้น ซึ่งเป็นภรรยาของนายพีรพันธุ์ และกรณีของหุ้นตัวนั้นมีการยื่นให้บริษัทถือหุ้นแทนหลังจากวันที่นายพีระพันธุ์รับตำแหน่ง โดยนายพีระพันธุ์ประกาศรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 จากนั้นวันที่ 4 ก.ค. 67 ภรรยาของนายพีระพันธุ์ยื่นหนังสือให้บริษัทที่จะรับเป็นผู้ถือหุ้นแทน ซึ่งถือว่ามีการยื่นหลังเป็นรัฐมนตรีแล้ว
วันที่ 28 พ.ค. 68 บริษัทที่รับถือหุ้นแทนส่งหนังสือกลับไปที่ภรรยาของนายพีระพันธุ์ แจ้งไปในหนังสือว่าไม่สามารถรับเป็นผู้ดำเนินการจัดการเกี่ยวกับหุ้นแทนได้ เพราะบริษัทของภรรยานายพีระพันธุ์มีกฎห้ามโอนย้ายถ่ายเทหุ้นไปให้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บุคคลสืบสายเลือดเดียวกัน มีการระบุชัดเจนว่าขอให้การที่ยื่นไปก่อนนั้นถือว่าเปรียบเสมือนไม่ได้ยื่นในการเอาหุ้นไปให้กับบริษัทนั้นบริหารจัดการ เท่ากับว่าภรรยาของนายพีระพันธุ์ถือหุ้นมาตั้งแต่ก่อนที่นายพีระพันธุ์จะรับตำแหน่ง และหลังรับตำแหน่งด้วย
นายพีระพันธุ์ กับภรรยา เป็นผู้ที่ถือหุ้นเกินกว่า 5% เมื่อบริษัทที่รับถือหุ้นไม่สามารถรับถือได้จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา คือการถือหุ้นของรัฐมนตรีและคู่สมรสไม่สามารถถือได้เกิน 5% จึงแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ และในประเด็นนี้นายพีระพันธุ์จะนำไปสู่การสิ้นสภาพของการเป็นรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเฉพาะตัว
กรณีที่นายพีระพันธุ์ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทหนึ่งที่ประกอบด้วยแม่ของนายพีระพันธุ์ด้วย เมื่อแม่เสียชีวิตแล้วแต่การดำเนินกิจการในบริษัทยังดำเนินกิจการเรื่อยมา มีการกู้ยืม และยังคงมีเงินสะพัดอยู่ ผู้ที่มีอำนาจเซ็นคนเดียวคือนายพีระพันธุ์ มีการทำหนังสือให้นายพีระพันธุ์ชี้แจง แต่นายพีระพันธุ์ไม่ชี้แจง จึงร้องเรียนหลายที่เพื่อให้ตรวจสอบ โดยเอกสารที่ได้มาเป็นเอกสารทางราชการ ของกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ฉะนั้นนายพีระพันธุ์สามารถชี้แจงหรือยื่นข้อมูลมาได้
อย่างไรก็ตาม ได้ยื่นถึงนายกรัฐมนตรีฉบับนี้เป็นครั้งที่ 4 ให้มีการตรวจสอบ เพราะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการให้ตรวจสอบได้ถึงบริษัทที่นายพีระพันธ์ถือหุ้นอยู่ เมื่อไม่ได้รับคำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรี ไม่มีการตรวจสอบ จึงไปยื่นถึงองคมนตรีเพื่อให้องคมนตรีโปรดพิจารณาวินิจฉัย
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า วันนี้มาร้องเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณาวินิจฉัย และปลดนายพีระพันธุ์ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะการกระทำชัดเจนว่าผิดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ย้ำว่าหากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตามที่ร้องเรียน ภายในวันที่ 4 ก.ค. 68 จะถวายฎีกาไปยังองคมนตรีเพื่อโปรดพิจารณา และวินิจฉัย












