KNOWLEDGE

คกก.มรดกโลกมีมติให้ขึ้นทะเบียน ‘แหล่งภูพระบาท เป็นมรดกโลกลำดับที่ 8 ของไทย

ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกมีมติให้ขึ้นทะเบียน ‘แหล่งภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี’ เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกลำดับที่ 8 ของไทย

วันนี้ (27 ก.ค. 67) ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก (World Heritage Committee) สมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย มีมติให้ขึ้นทะเบียนแหล่งภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี เป็นมรดกโลก ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. 1972 (1972 Convention Concerning the Protection of the World Cultural and Natural Heritage หรืออนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก) ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO)

ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกลำดับที่ 8 ของไทย ก่อนหน้านี้ ไทยมีมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 7 แหล่ง ได้แก่ (1) เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (2) นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร (3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง (4) แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (5) ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (6) กลุ่มป่าแก่งกระจาน และ (7) เมืองโบราณศรีเทพ

แหล่งภูพระบาทประกอบด้วยอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทและแหล่งวัฒนธรรมสีมาที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมสีมาในยุคทวารวดี ซึ่งมีอายุราวคริสต์ศตวรรษที่ 8 และยังคงสภาพความเป็นแหล่งใบเสมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ แหล่งภูพระบาทตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี การขึ้นทะเบียนครั้งนี้จึงทำให้จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทยที่เป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกถึงสองแหล่ง

นอกจากการขึ้นทะเบียนแหล่งดังกล่าวของไทยเป็นมรดกโลกแล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการดังกล่าวยังมีมติบรรจุ สงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของแหล่งมรดกโลกอีกด้วย

การขึ้นทะเบียนมรดกโลกในครั้งนี้ ไม่เพียงสำคัญต่อไทยเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลัง โดยจะนำมาซึ่งความร่วมมือในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และคุ้มครองจากทุกระดับ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในทางวิชาการเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat