Senate 67 เล่าปัญหาเลือก สว.ระดับอำเภอ เตือนรอบจังหวัดโหดกว่าเดิม
Senate 67 เล่าปัญหาเลือก สว.ระดับอำเภอ เตือนรอบจังหวัดโหดกว่าเดิม ขอ กกต.มีมาตรฐานชัดเจน ให้ประชาชนสังเกตการณ์ดูความผิดปกติ หวั่นห้องเลือกกลายเป็นห้องมืด
วันนี้ (11 มิ.ย. 67) เครือข่าย Senate 67 แถลงข่าวปัญหาการเลือก สว.ระดับอำเภอ ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายฉัตรชัย พุ่มพวง ActLap กล่าวถึงปัญหาการใช้อำนาจของ กกต.ใช้คำสั่งไม่รับสมัคร สว.ในหลายกรณี แบ่งเป็น 7 ลักษณะ ประกอบด้วย
1.ถูกกล่าวหาว่าเป็นบุคคลล้มละลาย 4 คดี
2.ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง 13 คดี ซึ่งบางกรณีข้อมูลไม่อัปเดต เช่น อ้างอิงฐานข้อมูลพรรคของแต่ละแปลแต่ผู้ร้องเป็นสมาชิกรายปีและไม่ได้จ่ายค่าสมาชิกมาสองปีซึ่งถือว่าความเป็นเป็นสมาชิกพักสิ้นสุดลง พัทลุงค้นสภาพการเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2561 แต่ยังไม่มีการแก้ไขในระบบฐานข้อมูลให้ถูกต้อง
3.ถูกกล่าวหาว่าไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยไม่ไม่ไปใช้เหตุ 1 คดี
4.ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน 12 คดี
5.ถูกกล่าวหาว่าเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นและพ้นจากตำแหน่งไม่เกินห้าปี 3 คดี
6.ทำคำพิพากษาถูกจำคุกหรือถูกคุมขังทั้งสี่คดี
7.ถูกกล่าวหาว่าเป็นคู่ชีวิตกับผู้สมัครในคราวเดียวกันหนึ่งคดี
นายกฤต แสงสุรินทร์ We Watch กล่าวต่อว่า กกต.ระบุว่าการเลือก สว.ได้รับเรื่องร้องเรียนเพียง 22 กรณี เพราะผู้ร้องต้องเป็นผู้สมัครในอำเภอนั้น ๆ และต้องร้องเรียนภายในสามวันนับจากวันเลือก ห้ามร้องเรียนเท็จ และต้องมีหลักฐาน แต่การห้ามนำเครื่องมือสื่อสารเข้าในที่เลือก ทำให้ผู้สมัครไม่มีหลักฐาน ส่วนประชาชนที่ไปสังเกตการณ์ บางพื้นที่อนุญาตให้สังเกตการณ์ผ่านจอโทรทัศน์เท่านั้น บางพื้นที่จอดับ จออยู่ไกล ไม่มีเสียง ไม่สามารถดูภาพย้อนหลังได้ต้องทำเรื่องไปยัง กกต. ขณะที่บางพื้นที่อนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด โดยไม่กระทบต่อตัวผู้สมัคร ทั้งยังมีอาสาสมัครของ We Watch และผู้สังเกตการณ์ถูกคุกคามขอถ่ายภาพขอข้อมูลส่วนตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว
นายธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) กล่าวถึงมาตรฐานการเลือกของแต่ละอำเภอที่แตกต่างกัน ไม่สม่ำเสมอ เช่น การเก็บอุปกรณ์สื่อสารของผู้สมัคร บางอำเภอสามารถเอาสมาร์ทวอทช์ และหูฟังบลูทูธเข้าไปได้ การอนุญาตนำคู่มือเข้าไปยังที่เลือก การแนะนำตัวก่อนเลือกไขว้ ซึ่งไม่ตรงกับที่ กกต.ประกาศว่าให้ดูในใบ สว.3 เท่านั้น บางพื้นที่เปิดให้ผู้สมัครพูดคุยกันได้ จัดบุฟเฟ่ต์อาหารให้รับประทานพร้อมพูดคุยทำความรู้จัก ซึ่งบางพื้นที่เสียเปรียบ เพราะมีมาตรการเข้มงวด ให้ดูข้อมูลจากใบ สว.3 เท่านั้น
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวสรุปถึง 3 ข้อเรียกร้องต่อ กกต. ได้แก่ 1. กกต.และเจ้าหน้าที่ ต้องเตรียมตัวให้ดี ทำกระบวนการเลือกให้รวดเร็วกว่านี้ในระดับจังหวัด 2.ขอให้ผู้สังเกตการณ์มีส่วนร่วมได้ ขณะนี้ทุกคนกลัวการฮั้วและจัดตั้ง แต่ไม่มีคนกลางไปนั่งดูถึงพฤติกรรมระหว่างเลือก ซึ่งอาจจะเห็นพฤติกรรมการเทคะแนนให้คนใดคนหนึ่งผิดสังเกต การทำบัตรเสียหรือการเตรียมเลือกเบอร์ใดเบอร์หนึ่ง และ 3.ขอความชัดเจนในหลายเรื่อง เช่น การให้ผู้สมัครแนะนำตัว หรือพูดคุยในรอบไขว้ ขอเตือนว่า การเลือกระดับจังหวัดจะโหดกว่าระดับอำเภอมาก รอบจังหวัดจะเลือกเหลือ 3,080 คน หรือเข้ารอบเพียง 13% อาจจะต้องเจอกับเกมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดในสถานที่เลือก หาก กกต.ไม่ชัดเจนไม่มีมาตรฐาน และไม่ให้คนเข้าสังเกตการณ์ ห้องเลือกจะกลายเป็นห้องมืดของสถานที่สีเทา
