‘สนธิญา‘ ยันไม่ใช่นักร้อง แต่เป็นนักการเมืองที่รับเรื่องร้องเรียน ไม่หวั่นซ้ำรอย ‘ศรีสุวรรณ‘
‘สนธิญา‘ ยันไม่ใช่นักร้อง แต่เป็นนักการเมืองที่รับเรื่องร้องเรียน ไม่หวั่นซ้ำรอย ‘ศรีสุวรรณ‘ โวรับมรดกสวนปาล์ม-ประกอบธุรกิจ เงินสะพัดหลักร้อยล้าน พร้อมร้องทุกฝ่ายหากมีหลักฐาน ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล
วันนี้ (29 ม.ค. 67) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายสภาผู้แทนราษฎร ถูกตั้งคำถามถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ถูกจับ เพราะมีพฤติกรรมข่มขู่เรียกรับเงิน แลกเปลี่ยนกับการไม่ร้องเรียน ส่วนตัวกลัวหรือไม่ โดยก่อนที่จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นายสนธิญา กล่าวหยอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีหมายจับหรือตำรวจมารอผมใช่หรือไม่”
นายสนธิญา กล่าวว่า ตนไม่รู้จักนายศรีสุวรรณเป็นการส่วนตัวไม่เคยพูดคุยกันเลย มีเพียงครั้งเดียวที่ไปออกรายการโทรทัศน์ และตนไม่ใช่นักร้องเรียนมืออาชีพ เหมือนนายศรีสุวรรณ และการทำงานของตนที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่เคยร้องส่วนงานราชการ
นายสนธิญา ยังกล่าวว่า ส่วนตัวมีสมบัติ สวนปาล์มที่พ่อแม่ยกให้ และทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับโครงการแนวชะลอคลื่น ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา มีเงินสะพัดนับ 100 ล้านบาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด 2 แห่ง แต่ก็มีปัญหาเรื่องถูกเบี้ยวไปกว่า 5 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ สิ่งที่ร้องเช่นพรรคก้าวไกล หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ก็ไม่ได้ไปขอเงิน หรือร้องบางหน่วยงานที่ผ่านมา จะไปเรียกรับผลประโยชน์ได้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่ตนทำที่ผ่านมาหากประชาชนเดือดร้อน เช่น ในหลายๆคดี ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ก็ให้การช่วยเหลือโดยไม่รับค่าตอบแทน
ส่วนกรณีของนายศรีสุวรรณ ที่มีการนำเงินใส่ถุงดำโยนไปข้างบ้าน นายสนธิญา กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ส่วนตัวที่ติดตามดูข่าว เรื่องนี้เหมือนเป็นการเจรจาขายที่ดิน เพราะเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2566 ส่วนตัวแปลกใจว่าทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างไรในช่วงของการจ่ายเงิน พูดคุยต่อรองในเรื่องของการจ่ายเงินหรือไม่จ่าย อย่างไรก็ตาม ด้วยสามัญสำนึก ทุกอย่างสามารถอัดเทปได้ ไม่สามารถหลุดรอดไปได้ ถ้าจะทำผิด จะไปกระทรวงหรือบ้านใครก็มีโทรทัศน์วงจรปิดทั้งนั้น
นายสนธิญา กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ใช่นักร้อง แต่เป็นนักการเมืองที่รับเรื่องร้องเรียน ตนพร้อมทำงานทางการเมืองและพร้อมลงสมัคร สส. หากมีการเลือกตั้งซ่อม ไม่ใช่นักร้องอาชีพแต่เป็นนักการเมือง ที่มาทำงานรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนที่เดือดร้อน หรือการกระทำที่ไม่ถูกต้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหากสมมุติมีอะไรเกิดขึ้นกับตนก็จะขอยอมรับ
ทั้งนี้นายสนธิญา ขอแสดงความเสียใจไปยังนายศรีสุวรรณด้วย และยอมรับว่าส่วนหนึ่งนายศรีสุวรรณ ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ แต่ครั้งนี้ทำผิดพลาดอย่างไร ใครร่วมกระบวนการบ้าง ตนไม่ขอแสดงความเห็น และขอให้รอว่าการต่อสู้ในคดีผลจะออกมาเป็นอย่างไร เข้าใจว่าทุกฝ่ายจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนต่อไป












