POLITICS

ส.ส.พรรคประชาชาติ แถลงข่าวเสนอญัตติ 3 ประเด็นใหญ่ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

พรรรคประชาชาติ เผย ได้เสนอญัตติใน 3 ประเด็นใหญ่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่

  1. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคประชาชาติเสนอญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาลูกหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ทั้งระบบ จากที่ได้ให้นักเรียน นักศึกษากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาแล้วจำนวน 5,605,192 คน รวมเงินให้กู้ยืมกว่า 600,000 ล้านบาท มีผู้กู้ยืมอยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,569,236 คน ได้ชำระปกติร้อยละ 40 ผิดชำระหนี้ร้อยละ 60 ถูกดำเนินคดีแล้วกว่า 1,000,000 คน เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ และทาง กยศ.ได้รับเงินคืนเพื่อให้โอกาสแก่นักเรียน นักศึกษา รายอื่นได้กู้ยืมต่อไป จึงเห็นสมควรให้มีการศึกษา ตรวจสอบ หาทางแก้ไขต่อไป
  2. ส.ส.พรรคประชาชาติ เสนอญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ติดตาม ตรวจสอบ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมสามสนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้งบประมาณกว่า 200,000 ล้านบาท ที่รัฐบาล คสช.ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2562 หลังการเลือกตั้งเพียง 3 วัน มีการลงนามในสัญญาโครงการระหว่างการรถไฟกับกลุ่มกิจการร่วมค้า คือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ซึ่งมีผลกระทบต่อหน่วยงานราชการ อีกทั้งประชาชนจำนวนมากมีความกังวลในประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องความคุ้มค่า ความกังวลของสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าจะได้รับความเสียหายด้านการซ่อมบำรุงบนที่ดินโรงงานมักกะสัน ผลกระทบต่อประชาชนตลอดพื้นที่ก่อสร้าง และความกังวลต่อโครงการเชิงพาณิชย์ที่อยู่ในโครงการมากถึง 850 ไร่ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องส่งมอบให้เอกชน
  3. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคประชาชาติ ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการบังคับลงทะเบียนซิมการ์ดสแกนใบหน้าพิสูจน์อัตลักษณ์ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบเนื่องจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) มีมาตรการบังคับให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ใหม่พร้อมสแกนใบหน้าพิสูจน์อัตลักษณ์ ภายในวันที่ 31 กรกฎกาคม 2562 หากไม่ลงทะเบียนจะถูกระงับการใช้งาน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ ว่ามาตรการนี้เข้าข่ายการละเมิดสิทธิบุคคลหรือไม่ อีกทั้งประชาชนได้แสดงความกังวลว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะนำข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไปใช้ประโยชน์อื่นหรือไม่ สอดรับกับผลสำรวจออนไลน์ของนักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ทำโพลล์สำรวจประเด็นนี้ในเฟซบุ๊ค มีผู้ร่วมโหวตมากกว่า 4,000 คน ผลการโหวตปรากฎว่าเห็นด้วยร้อยละ 8 และไม่เห็นด้วยร้อยละ 92 แม้โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้ชี้แจงเหตุผลเพื่อความมั่นคงว่าเป็นมาตรการป้องกันผู้ก่อเหตุรุนแรงสวมรอยนำซิมการ์ดไปใช้จุดชนวนระเบิด และยังมีข้อสังเกตว่าใช้อำนาจกฎหมายใดในการบังคับใช้ แม้จะอ้างประกาศ กสทช. เรื่องการลงทะเบียนและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ลงวันที่ 4 เมษายน 2562 นั้น ระเบียบนี้ได้ประกาศให้ใช้ทั่วประเทศ นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กลับมีมาตรการบังคับใช้กับประชาชนในพื้นที่ความมั่นคงเท่านั้น อีกทั้งประกาศ กสทช.ไม่มีผลบังคับต่อผู้ใช้ซิมการ์ดเดิมก่อน แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากลับบังคับใช้ทั้งหมด

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend