นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ใช้อำนาจรธน.และพรบ.คำสั่งเรียก เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงปมถวายสัตย์ไม่ครบและไม่มีอำนาจเสนอกม.งบประมาณว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีพฤติกรรมใช้อำนาจเกินขอบเขต ซึ่งไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากว่าในวันประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติที่ประชุม 6 ต่อ 3 เห็นด้วยที่จะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงต่อคณะกมธ.อีกครั้ง แต่ไม่ได้มีมติเห็นด้วยที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 129 วรรค 4 ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ประกอบมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพ.ศ.2554
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลงนามในหนังสือเชิญโดยไม่ผ่านมติของที่ประชุม นั่นหมายความว่า ผู้ลงนามต้องรับผิดชอบ การกระทำที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ผมไม่ไว้วางใจที่จะให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธาน กมธ.ชุดนี้อีกแล้ว ผมอยากให้สังคมดูพฤติกรรมและการกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่ากำลังใช้หัวโขนประธาน กมธ.มาเป็นเครื่องมือในเรื่องความแค้นส่วนตัวหรือไม่”
นายสิระ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมาธิการในชุดนี้ด้วยขอฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ต้องสนใจจดหมายเรียกเชิญดังกล่าว เพราะตนมั่นใจว่าหนังสือเรียกฉบับนี้ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะการจะออกหนังสืออะไรก็ตามในชั้นกรรมาธิการ ต้องผ่านมติที่ประชุมกรรมาธิการในทุกเรื่อง ไม่ใช่เอาความคิดของผู้ที่เป็นประธาน มายัดใส่ว่ากรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย
นายสิระ ขอท้าให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอดเทปบันทึกการประชุมในวันดังกล่าว และนำมาเปิดเผย เพื่อพิสูจน์ว่ามีการขอมติที่ประชุมที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 หรือไม่ หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กระทำเกินขอบเขต ไม่ตรงกับเทปบันทึกการประชุมในวันนั้น ขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลาออกจากการเป็นประธานด้วยตนเอง ก่อนที่จะถูกมติที่ประชุมปลด
ซึ่งนายสิระ จะเสนอปลด พล.ตอ.เสรีพิศุทธ์ ด้วยตนเอง ในวันพุธที่ 20 พ.ย.นี้ มั่นใจว่าเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวประธาน กมธ.