PUBLIC HEALTH

เฝ้าระวัง ‘ไวรัสโคโรนา’ โรคระบาดจากอู่ฮั่น หลังยืนยันติดจากคนสู่คนได้ ห่วงตรุษจีนจะแพร่ระบาดหนักเพราะเดินทางมาก

จีนเผยพบ โคโรนาไวรัสสามารถเผยแพร่จากคนสู่คนได้ ล่าสุดพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย มีผู้ติดเชื้อแล้ว 217 ราย โดย 198 รายอยู่ในอู่ฮั่น 4 รายอยู่ในเกาหลีใต้ ไทย และญี่ปุ่น ห่วงการแพร่กระจายของเขื้อโรคในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีการเดินทางมากในประเทศ และอู่ฮั่นเป็นฮับการเดินทางแห่งหนึ่งของจีน

ไวรัสดังกล่าวอยู่ในกลุ่มโคโรนาไวรัสเช่นเดียวกับ SARS ที่ระบาดในจีนและฮ่องกงในปี 2002-2003 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้ข้อมูลว่าคาดว่าการระบาดน่าจะเริ่มต้นจากสัตว์ ส่วนการเผยแพร่จากคนสู่คน เกิดขึ้นในวงจำกัด และเกิดขึ้นเฉพาะการติดต่อปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น โดย WHO เตรียมจัดประชุมที่กรุงเจนีวาในวันพุธนี้เพื่อตัดสินว่าจะประกาศการระบาดของโรคนี้ว่าเป็น “เรื่องเร่งด่วนด้านสาธารณสุขระดับนานาชาติ” ซึ่งจะประกาศต่อเมื่อเป็นโรคระบาดร้ายแรงเท่านั้นหรือไม่

แหล่งข่าวจากคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า มีการติดต่อจากคนสู่คน โดยในมณฑลกวางตุ้งมีผู้ติดเชื้อ 2 รายที่ติดจากครอบครัวที่เดินทางไปที่เมืองอู่ฮั่น และบุคลากรทางการแพทย์ 14 รายที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อกำลังอยู่ในระยะเฝ้าระวังและมีแนวโน้มจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางการจีนเชื่อว่าสามารถควบคุมได้ด้วยมาตรการป้องกัน และการแยกกักกันเชื้อโรค

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์จาก MRC Center for Global Infectious Disease Analysis ที่อิมพีเรียลคอลเลจ ลอนดอน ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในอู่ฮั่นอาจสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะสูงถึง 1,700 ราย

มีข้อกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการเดินทางไปมาหาสู่กันในประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นในปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากเมืองอู่ฮั่นที่เป็นต้นทางการระบาดของ โคโรนา ไวรัส มีประชากรถึง 11 ล้านคน และยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางแห่งหนึ่งของจีน และคาดว่าจะมีผู้คนเดินทางในประเทศถึงหลายร้อยล้านคน

สำหรับในประเทศไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเทศนอกประเทศจีนที่มีผู้ติดเชื้อนั้นได้มีมาตรการป้องกันมาตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย ยืนยันว่าได้วางมาตรการขั้นสูงสุดในการควบคุม และได้รักษาผู้ติดเชื้อในประเทศไทยหายแล้ว 1 ราย และได้ส่งกลับประเทศแล้ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า มาตรการควบคุมโรคของประเทศไทยมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จะถูกตรวจคัดกรองอย่างละเอียดโดยไม่มีข้อยกเว้น ด้วยอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ที่สนามบิน หากพบมีไข้ ต้องถูกแยกตัวไปตรวจหาสาเหตุของอาการทันที โดยมีระบบการเคลื่อนย้ายและการดูแลที่ปลอดภัยและรัดกุมมาก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจจุดคัดกรองที่สนามบิน (แฟ้มภาพ)

“ที่ผ่านมาเราพบผู้ติดเชื้อ เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเรารีบนำตัวเข้าสู่การรักษาในระบบปิดทันที เรียกว่าห้องแยกโรคความดันลบ ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในห้องควบคุมความดัน ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ มีทีมแพทย์ พยาบาล มอนิเตอร์ 24 ชม. และเราไม่เคยปกปิดข้อมูล เพราะต้องการให้ประชาชนเข้าใจ รู้เท่าทันสภานการณ์ แต่ไม่ได้ต้องการให้ตื่นตระหนก”นายอนุทินกล่าว

ในส่วนของผู้ป่วยซึ่งเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้หายเป็นปกติ และส่งกลับประเทศไปแล้ว ยืนยันว่าโรคนี้รักษาได้ และที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ผ่านสถานการณ์ในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ทั้งโรคซาร์ส โรคเมอร์ส จึงขอให้มั่นใจในการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยขณะนี้ได้นำมาตรการควบคุมระดับสูงสุดมาใช้ เพราะเข้าใกล้เทศกาลตรุษจีน

จุดคัดกรองในประเทศไทย (แฟ้มภาพ)

สำหรับประชาชน ขอให้ดูแลสุขภาพ ถ้าร่างกายแข็งแรง โอกาสติดเชื้อย่อมน้อยตาม ขอให้นอนพักผ่อนให้เพียง รับประทานอาหารปรุงสุก หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนป่วย หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ป่วย หมั่นล้างมือ หากอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงขอให้ใส่หน้ากากอนามัย

ส่วนประชาชนที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง หรือคนใกล้ชิดกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมีไข้ ให้ติดต่อรับการตรวจคัดกรองและรับการรักษาได้ ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 โดยกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลอย่างดีที่สุด ที่สำคัญยิ่งเข้ารับการรักษาเร็ว การรักษาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงข้อมูล Science Alert, Japan Time, CDC, WHO

Related Posts

Send this to a friend