หน้านี้จะยาวหน่อยนะ แต่ฉันอยากให้พวกเธอตั้งใจอ่านกันล่ะ ฉันคิดอยู่แล้วนะว่าจะไม่มีใครจับฉันได้หรอก แต่คุณหมอของประเทศไทยเธอไม่ธรรมดาเลยนะ พอคุณสุภาภรณ์ได้ตัวอย่างเชื้อของฉันมาก็มาวางแผนการตรวจเชื้อของฉันเลย โดยอาศัยโฟลว์การทำงานจากการตรวจวินิจฉัยที่ของฉันคือโรคไข้หวัดเมอร์สยังไงล่ะ เพราะคุณหมอสุภาภรณ์บอกว่าอาการของผู้ป่วยเหมือนคนเป็นโรคไข้หวัดเมอร์สเลยล่ะ พอได้โฟวล์การทำงานแล้ว คุณหมอก็เริ่มตรวจหาเชื้อของฉันจากโรคในระบบทางเดินหายใจ 33 ชนิดก่อนเลย เพื่อแยกออกมาว่าฉันใช่โรคไข้หวัดที่เป็นเชื้อปรกติหรือไม่เมื่อคุณหมอพบแล้วว่าฉันไม่ใช่เชื้อโรคปรกติ ก็เริ่มใช้เทคนิคใหม่ในการตรวจว่าฉันเป็นเชื้อไวรัสอะไร
เทคนิคที่คุณหมอใช้ก็คือการตรวจหาทั้งตระกูลต้นตอของไวรัส เมื่อคุณหมอนำเชื้อตระกูลของไวรัสมาตรวจแล้วก็พบเจอว่าฉันเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าอย่างเดียว แล้วคุณหมอก็นำฉันมาถอดรหัสพันธุกรรม ซึ่งการถอดรหัสพันธุกรรมนั้นคุณหมอเอาเชื้อไวรัสโคโรน่าของฉันไปเปรียบเทียบว่าเหมือนกับใครเพื่อที่จะบอกว่าเป็นโรคอะไร ซึ่งตอนนั้นประเทศจีนต้นกำเนิดของฉันยังไม่ได้ประกาศออกมาว่าเชื้อของฉันที่กำลังแพร่กระจายอยู่นั้นคือเชื้ออะไร
แบบนี้นะโลกของเธอจะมีธนาคารอยู่ธนาคารหนึ่งชื่อธนาคารรหัสพันธุกรรมโลกที่จะให้นักวิจัยนักเทคนิคการแพทย์เอาไว้เปรียบเทียบหรือค้นหาเชื้อโรคต่างๆ คุณหมอก็เลยเอาเชื้อรหัสพันธุกรรมของฉันไปเทียบกับธนาคารรหัสพันธุกรรมโลก ผลเชื้อไวรัสของฉันก็ออกมาว่าเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าที่คล้ายกับโรคไข้หวัดซาร์สที่มีต้นตอจากค้างคาวโดยมีผล 90% เลยล่ะที่คล้ายกับเชื้อในค้างคาว ซึ่งตอนนั้นคุณหมอก็เลยรายงานไปที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานกรมกองต่างๆในประเทศเธอที่ดูแลเรื่องสุขภาพของเธอว่าฉันคือเชื้ออะไร