ชู “Telemedicine” ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมดันสภาฯ ปรับ กม. ที่เกี่ยวข้อง
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล กล่าวว่า การมาของ 5G จะพลิกโฉมการให้บริการด้านสาธารณสุขลดปัญหาการเข้าถึงสถานพยาบาลของประชาชนทุกกลุ่ม และเชื่อว่าภายใน 5- 10 ปี จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือและส่งเสริมการให้บริการทางการแพทย์อีกมาก ซึ่งสิ่งที่ประชาชนต้องทำต่อไปคือยอมรับและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง โดยระบุว่า ขณะนี้ไม่มีปัญหาด้านการเงินที่ใช้ลงทุนเกี่ยวกับแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่มองว่ายังต้องเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย เช่น การให้ความคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์
พ.อ.เศรษฐพงค์ ยังเปิดเผยว่า นายอนุทิน เตรียมเปิดตัวโครงการเทเลเมดิซิน อย่างเป็นทางการในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ภายในสิ้นปีนี้ โดยสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนว่าเทเลเมดิซิน มีมาตรฐานการรักษาเท่ากัน
“ในหลายประเทศมีการรักษาด้านการแพทย์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น พบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อประเทศไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว จะช่วยยกระดับการรักษาพยาบาลและแก้ปัญหาด้านระบบสาธารณสุขที่เคยมีมาในอดีตได้อย่างแน่นอนโดย มุ่งหวังเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนคนไทยให้ดีขั้น”
นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เทเลเมดิซีน คือการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ไม่มีขอบเขตของเวลา หรือสถานที่ โดยเทคโนโลยีสามารถช่วยเรื่องดังกล่าวได้ ทั้งนี้การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ ต้องคำนึงถึงมาตรฐานทางการแพทย์ระหว่างคนไข้ และแพทย์ เทเลเมดิซีนต้องมีการบันทึกข้อมูลเพื่อติดตาม แต่กฎหมายหรือระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขยังไม่รับรอง อีกทั้งยังพบความยุ่งยากอื่นๆ คือ การบันทึกประวัติผู้ป่วย เช่น กรณีที่กระทรวงสาธารณสุขให้จ่ายยา 4 โรคผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
