ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส-เบรนท์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันวันนี้ (31 ม.ค. 65) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังตลาดมีกังวลในความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ยังดำเนินอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรป ยังไม่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์นี้

นักวิเคราะห์คาดว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจีนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น 7% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังความต้องการใช้น้ำมันในจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว

ด้าน Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 28 ม.ค. 65 เพิ่มขึ้น 6 แท่น แตะระดับ 610 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63

ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 47.07% แตะระดับ 13.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 64 นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ด้านราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 26 ม.ค. 65 ปรับลด 0.79%

ล่าสุด กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ยิงขีปนาวุธข้ามพรมแดน หวังโจมตียูเออีในช่วงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ (30 ม.ค.65) ขณะที่กระทรวงกลาโหมของยูเออี ยืนยันว่า กองทัพยูเออีสามารถยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าวได้สำเร็จ ส่วนเศษซากของขีปนาวุธที่ถูกยิงทำลายนั้น ได้ตกลงในพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่อาศัย

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เพิ่มคำเตือนให้ระวังอันตรายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือโดรน จากการเดินทางไปยังยูเออี โดยแถลงการณ์ระบุว่า “การโจมตีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพลเมืองและผลประโยชน์ของสหรัฐในอ่าวอาหรับ เพราะกลุ่มกบฏที่ปฏิบัติการอยู่ในเยเมนแสดงความต้องการที่จะโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงยูเออี โดยใช้ขีปนาวุธและโดรน ซึ่งการโจมตีที่ผ่านมานั้น มีเป้าหมายไปยังพื้นที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและสาธารณูปโภคพื้นฐานของพลเรือน”