‘ศัลยกรรม-เสริมความงาม’ เทรนด์สุดฮิตรุกตลาดหนุ่มสาวมัธยมจีน
หลังการสอบเข้ามหาวิทยาลัยผ่านพ้นไปไม่นาน เติ้งหลิน (นามแฝง) สาวน้อยชาวจีนวัย 18 ปี ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด “ตาสองชั้น” เพื่อสร้างชั้นตาธรรมชาติให้ดูมีขนาดใหญ่ขึ้น เธอต้องการเริ่มชีวิตมหาวิทยาลัยด้วยรูปลักษณ์ที่ดีกว่าเดิม เช่นเดียวกับเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบมัธยมปลายในจีนอีกหลายคน วันหยุดฤดูร้อนจึงกลายเป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับการทำศัลยกรรมความงาม ขณะความต้องการรูปแบบดังกล่าวเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
หยางลู่ หัวหน้าพยาบาลประจำโรงพยาบาลเวชศาสตร์ความงามซีอาร์ที (CRT) ในเทศบาลเทียนจินทางตอนเหนือของจีน กล่าวว่าโรงพยาบาลรองรับวัยรุ่นที่เพิ่งจบการศึกษาหลายสิบคนต่อสัปดาห์ในช่วงที่คึกคัก โดยการทำตาสองชั้นได้รับความนิยมมากที่สุด พร้อมเสริมว่าการผ่าตัดแบบนี้เป็นที่นิยมในจีนมาหลายปีแล้ว ด้วยเทคนิคที่ทำกันมาเนิ่นนาน ซึ่งช่วยให้รูปร่างหน้าตาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยลูกค้าต้องรอนานกว่าสองสัปดาห์หากต้องการใช้บริการเหล่านี้ในโรงพยาบาลของเธอ
กระแสดังกล่าวสะท้อนทัศนคติต่อการทำศัลยกรรมตกแต่งที่เปลี่ยนไปในจีน รายงานจากสมาคมพลาสติกและสุนทรียศาสตร์แห่งประเทศจีนในปี 2020 คาดการณ์ว่าขนาดตลาดการทำศัลยกรรมตกแต่งของจีนอาจสูงแตะ 3 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.54 ล้านล้านบาท) ในปี 2022
หนึ่งในความนิยมที่ช่วยผลักดันกระแสการทำศัลยกรรมตกแต่งคือสิ่งที่ผู้คนในวงการเรียกขานว่า “การเสริมความงามแบบบางเบา” ซึ่งเป็นการเติมแต่งรูปลักษณ์เพียงเล็กน้อยหรือขั้นตอนที่ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด เช่น การฉีดสารเสริมความงามหรือการรักษาด้วยเลเซอร์ โดยหยางระบุว่าขั้นตอนเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่สะดวก ปลอดภัย และมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งมักมีความเสี่ยงและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า
“กระบวนการด้านความงามกลายเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วไปแล้ว” คำบอกเล่าจากหวังย่วน สาวจีนวัย 27 ปี ผู้ทำงานในภาคการเงินในกรุงปักกิ่ง “ฉันสามารถฉีดโบทอกซ์โดยใช้เวลาพอกับการกินข้าว แล้วก็อาจจะแค่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย”
เมื่อเทียบกับการผ่าตัดดึงหน้าที่อาจใช้เวลาพักฟื้น 2-3 เดือน การฉีดโบทอกซ์เป็นทางเลือกที่สะดวกกว่ามากสำหรับพนักงานออฟฟิศหนุ่มสาวแบบหวัง ส่วนค่าใช้จ่าย ซึ่งอยู่ที่ราว 3,000 หยวน (15,000 บาท) ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง ก็น้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเต็มรูปแบบเช่นกัน
รายงานปี 2020 จากหน่วยศัลยกรรมความงามของเหม่ยถวน (Meituan) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เผยว่าคนหนุ่มสาวเช่นหวังเป็นฐานผู้บริโภคหลักด้านเวชศาสตร์ความงามของจีน โดยผู้ใช้บริการกว่าร้อยละ 78 มีอายุระหว่าง 20-30 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างสนใจบริการลดริ้วรอย ทำให้ยอดคำสั่งซื้อในหมวดหมู่ดังกล่าวทะยานร้อยละ 88 จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ระหว่างการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2020
ด้านหยางเล่าเสริมว่าในอดีตผู้คนจำนวนมากพยายามเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตนเองแบบสิ้นเชิงด้วยการทำศัลยกรรมพลาสติก แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มหันมาสนใจการฉีดหรือการแก้ไขเล็กน้อยที่ช่วยเติมแต่งรูปลักษณ์ดั้งเดิมกันมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางคนออกมาย้ำเตือนความเสี่ยงที่มาพร้อมการเสริมความงามรูปแบบนี้ โดยหลี่หงเหว่ย แพทย์จากโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยหนานไคในเทียนจิน มองว่าแม้แต่การผ่าตัดเล็กที่สุดก็อาจก่อให้เกิดบาดแผล และบาดแผลอาจนำไปสู่ความเสี่ยง ผู้คนส่วนใหญ่ต้องเข้าใจว่าจากมุมมองทางการแพทย์แล้ว ไม่ว่าการผ่าตัดใดล้วนทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายทั้งสิ้น เหล่าผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องเสาะหาสถาบันเสริมความงามและแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้าใช้บริการ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้เผยแพร่หนังสือเวียนเรียกร้องให้มีข้อบังคับเข้มงวดมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามของประเทศเมื่อเดือนเมษายน 2020 โดยกำหนดให้ขั้นตอนการอนุมัติ การกำกับดูแลคุณสมบัติและใบอนุญาต ตลอดจนการตรวจสอบแบบสุ่มเป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น
“ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจความเสี่ยงกับแพทย์ให้ชัดเจนเสมอก่อนเข้ารับการตกแต่งเสริมความงาม” หลี่กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
ภาพ: แฟ้มภาพซินหัว (หญิงสร้างสรรค์งานฝีมือในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 8 ส.ค. 2021)
