HUMANITY

ผู้นำ KNDO/KNU ยืนยันการสู้รบยังไม่ยุติ ผู้หนีภัยส่ออยู่ยาว หากพม่าไม่ยินยอมกลับที่ตั้ง

ผู้นำ KNDO/KNU ยืนยันการสู้รบยังไม่ยุติ ผู้หนีภัยส่ออยู่ยาว หากพม่าไม่ยินยอมกลับที่ตั้ง ย้ำ KNU ให้ความคุ้มครองกลุ่มต่อต้านเผด็จการทหาร ไม่ส่งให้ไปตายแน่นอน วอนไทย และนานาชาติร่วมให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยทางการเมือง ปีใหม่ขอพรให้ชาวกะเหรี่ยง ได้รับอิสรภาพ สันติภาพและได้ปกครองตนเอง เป็นของขวัญปีใหม่เหมือนเพื่อนๆ ทุกชาติพันธุ์ที่กำลังต่อสู้ประชาธิปไตย

พ.อ.ซอ ซี แล ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชาติกะเหรี่ยง KNDO สหภาพกะเหรี่ยง KNU เปิดเผยกับ The Reporters ที่ระบุว่า สถานการณ์ภายในเลเกก่อ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 64 จนถึงวันนี้ ยังไม่ดีขึ้น ภายในพื้นที่ยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ กระทั่งช่วงหลังก็เริ่มเป็นปืนใหญ่ แต่ฝั่งไทยจะไม่ค่อยได้ยินเสียงปืน ล่าสุดเช้านี้ 31 ธ.ค. 64 เวลา 05.00 น.ยังมีการปะทะกันอยู่ 

แม้จะมีกระแสการเจรจาหยุดยิง แต่ผู้นำ KNDO/KNU ยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาในระดับผู้บัญชาการอย่างเป็นทางการ แม้วันที่ 28 ธ.ค. 64 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Forces: BGF) ขึ้นมาคุยกับกองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ (Democratic Karen Buddhist Army: DKBA) แต่ก็ยังไม่ได้รับการรับรอง การเจรจาหยุดยิงจึงยังไม่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีที่ไทยขอเจรจาก็ยังไม่มี ในหน่วยปฏิบัติจึงยังรักษาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

“ขณะนี้ กองทัพพม่ายังไม่สามารถยึดเลเกก่อได้ กองกำลังของ KNU ยังตรึงกำลังไว้ที่เลเกก่ออยู่ สาเหตุที่ 2-3 วันมานี้ค่อนข้างสงบลงเนื่องจากกองกำลังได้กระจายกัน ทำให้กองทัพพม่าไม่รู้พิกัดแน่ชัด แต่การสู้รบยังคงดำเนินไปอยู่อย่างต่อเนื่อง กองทัพพม่ายังส่งกำลังเสริมและยุทโธปกรณ์มาเรื่อยๆ KNU จึงจำเป็นต้องตอบโต้”

ผู้นำ KNDO/KNU เปิดเผยว่า เป้าหมายของพม่าคือทั้งต้องการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร ทั้ง CDM และ PDF ที่มีจุดประสงค์เหมือนกับ KNU ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และทหารพม่า ต้องการยึดพื้นที่ของ KNU ซึ่งเราย่อมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และแม้จะมีข้อเสนอว่าจะหยุดยิงหาก KNU ไม่ให้ความคุ้มครองกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร แต่ KNU ก็ไม่เห็นด้วยเพราะพวกเขาถือเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการที่พม่ามากวาดล้างเขา แล้วมารับความคุ้มครองและฝึกฝนในเขตพื้นที่ของ KNU

พ.อ.ซอ ซี แล ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชาติกะเหรี่ยง KNDO สหภาพกะเหรี่ยง KNU

“เรื่องนี้เรายอมรับไม่ได้ เพราะเรายังปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต่อต้านเผด็จการ พม่าไม่เคยทำตามที่พูดหรอก ต่อให้เราให้เขาแต่เขาไม่เคยรักษาสัจจะ ไม่เคยรักษาคำพูด เราจึงต้องคุ้มครองพวกเขาเท่าที่เราทำได้”

หมู่บ้านเลเกก่อมีพลเมืองได้รับผลกระทบประมาณ 8,000-9,000 คนซึ่งหนีภัยมาอยู่พื้นที่ชายแดนริมแม่น้ำเมย บางส่วนก็ข้ามชายแดนมายังฝั่งไทย แต่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านเลเกก่ออีกแล้ว ซึ่งยังเหลือเพียงแค่ทหารที่ตรึงกำลังและปะทะอยู่กับทหารพม่า

ผู้นำ KNDO/KNU เห็นว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อถึงเมื่อไรไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับว่าทหารพม่าจะหยุดยิงเมื่อไร แม้แต่ปีใหม่ก็ไม่มีทางที่จะหยุด แม้ผู้นำพม่าตั้งใจจะแสดงออกว่ารักษาสันติภาพ แต่ลูกน้องเขาขึ้นมายิงตลอดเวลา

“ตอนนี้จับกุมทหารพม่าได้ 9 คน ส่วนที่ทหารพม่าจับ CDM และ PDF ไปได้ ก็มีถึง 40 คน ถ้าถึงในมือพม่าเราก็เป็นห่วงเพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ไหม”

ผู้นำ KNDO/KNU กล่าวถึงการเรียกร้องไปยังสหประชาชาติ หรือ UN ให้เข้ามาระงับเหตุรุนแรงนี้ว่า KNU พยายามทำแถลงการณ์ล่าสุดถึง UN ว่าไม่อยากให้พม่าใช้เครื่องบินรบปฏิบัติการทางอากาศ และกำหนดเขตห้ามบิน ในเมืองเลเกก่อ แต่ก็ยังเงียบ ส่วนแถลงการณ์กรณีการจับกุม CDM และ PDF เรื่องก็ยังเงียบเช่นกัน ถ้านับล่าสุดที่พม่าจับไปทั้งประเทศก็เป็นร้อยเป็นพันคน UN ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ตอนนี้ 

“ถามว่าจะพึ่งพาใครในกรณีได้อีกบ้าง เราหวังที่จะพึ่งทั้ง ไทย อาเซียน และ UN แต่เมื่อเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้รับการรับรองโดยสหประชาชาติ ก็ไม่รู้ว่าเขาสนใจเราแค่ไหน แต่ก็หวังอยู่ว่าเขาจะช่วยเราอย่างดีที่สุด”

พ.อ.ซอ ซี แล เห็นว่าสถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยงไม่ต่างกับรัฐชิน แต่กะเหรี่ยงเจอมาก่อนเยอะ เมื่อเราเผชิญกับเรื่องนี้ เราก็ต้องสู้ไปข้างหน้า ยืนยันในแนวทางของ KNU จะสู้จนกว่าจะได้รับอิสรภาพ แม้ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพียงส่วนที่คนข้างนอกได้รับรู้ แต่จริง ๆ มีอยู่ทุกกองพล

“ถ้าพม่าทำตามสัญญาเงื่อนไข รักษาคำพูดเหมือนอย่าง NCA เราก็พร้อมพูดคุยกับเขา แนวทางเดียวที่จะยุติการสู้รบนี้ได้ก็ต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่ของเราโดยไม่มีเงื่อนไขอื่น”

พ.อ.ซอ ซี แล เปิดเผยว่าเมืองเลเกก่อสร้างขี้นมาภายหลังการลงนาม NCA เพื่อหวังให้เป็นหมู่บ้านสันติภาพ ซึ่งตอนที่สร้างเมืองนี้ก็คุยกันและได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิ The Nippon Foundation 

“ถ้าเขารักในสันติภาพจริง เขาไม่ควรมาทำสงครามรุกล้ำก่อความวุ่นวายแบบนี้ ถ้าเขาทำถึงขั้นนี้ต่อหน้าต่อตาประชาคมโลก แสดงว่าในอนาคตเขาอาจทำรุนแรงกว่านี้ในเมืองนี้หรือเมืองอื่นได้ แล้วเราไม่สามารถจะช่วยใครได้เลย”

พ.อ.ซอ ซี แล ย้ำว่าพม่าไม่สนใจสันติภาพแท้จริง ถึงขั้นมาทำสงครามในหมู่บ้านสันติภาพ ถ้าเขาอยากตั้งใจทำจริง รักในสันติภาพ รักในอิสรภาพ เขาไม่ควรทำอย่างนี้ ควรทำให้เมืองนี้เป็นเมืองสันติภาพที่ได้รับการรับรองแท้จริง

“ปีใหม่ทุกปี ผู้ใหญ่ของเราอยากได้อิสรภาพ สันติภาพ และการปกครองตนเอง เป็นของขวัญปีใหม่เสมอ แต่พม่าไม่เคยคิดว่าอยากให้ประชาชนอยู่ในประเทศของตนเองอย่างเป็นสุข ทุกปีเราอวยพรเสร็จ เราก็ไม่เคยได้รับพรกลับมาเลย ต้องมาสู้รบกับพม่าตลอด เราจะทำถึงวันนั้น ถึงวันที่เราได้รับสันติภาพ อยู่ประเทศของเราอย่างสันติสุข ไม่ต้องอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป กองกำลังของเราจะทำให้ดีที่สุดต่อไป”

Related Posts

Send this to a friend