กลุ่มทวงคืนสัญญาน้ำพริกปลาทู ยังคงปักหลักหน้าทำเนียบฯ
ขอเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ให้เร่งบรรจุกฎหมายมาตรา 57 เข้าในวาระการประชุมและเพื่อให้เป็นวาระพิจารณา ในการประชุมบอร์ดประมงแห่งชาติวันที่ 30 ก.ย. นี้ หลังกรมประมงออก 4 มาตราการแต่ไม่เป็นผล
วันนี้ (28 ก.ย.65) กลุ่มทวงคืนสัญญาน้ำพริกปลาทู ปักหลักที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล ยืนยันจะขอเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ เพื่อให้รัฐบาลนำเรื่องมาตรา 57 กฎหมายประมงเข้าประชุมบอร์ดประมงแห่งชาติวันที่ 30 ก.ย.นี้
นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาพันธ์สมาคมประมงแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ว่า มาเรียกร้องในเรื่องกฎหมายมาตรา 57 ผ่านมา 7 ปีแล้ว ยังไม่ถูกบังคับใช้ ที่มาในวันนี้เพราะต้องการเห็นความคืบหน้าในการเร่งดำเนินการเรื่องนี้
นายปิยะ กล่าวว่า อย่างน้อยในการประชุมเรื่องคณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ เราต้องการให้มาตรา 57 ถูกบรรจุในวาระการประชุม และให้เป็นวาระเพื่อการพิจารณา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ปี 2559-2563 สัตว์น้ำชนิดปลาทู ชาวประมงพื้นบ้านจับได้หลักหน่วยถึงหลักสิบกิโลกรัมต่อวันเท่านั้
นายปิยะ กล่าวว่า หากต้องการให้สัตว์น้ำเกิดความยั่งยืนไม่มีวันหมดไป คิดว่าต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย หากมีการปล่อยให้จับสัตว์น้ำวัยอ่อนเกินขนาดที่ทะเลจะผลิตได้
นอกจากนี้นายปิยะ ยังกล่าวถึงอีกส่วนหนึ่งที่น่าตกใจคือ กรมประมงชี้แจงว่าไม่จำเป็นต้องบังคับใช้มาตรา 57 เพราะให้ใช้ 4 มาตรา ซึ่งไม่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของทรัพยากร จาก 11 ปีที่ผ่านมามีการบันทึกสถิติการจับสัตว์น้ำได้มากสุดถึง 2 ล้านตัน แต่ 10 ปีที่ผ่านมาเราเหลือ 1 ล้านตันเศษ นั่นชี้ให้เห็นว่ามาตราการต่างๆไม่เป็นผล หากไม่รีบดำเนินการสัตว์น้ำจะหมดไป” นายปิยะ กล่าว
