HUMANITY

พี่สาววันเฉลิม ยื่นหลักฐานสำคัญให้อัยการสูงสุด ยืนยัน ‘วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์’ อยู่และหายไปจากที่พักในประเทศกัมพูชาจริง ขออัยการสูงสุดพิจารณาเป็นคดีระหว่างประเทศ

วันนี้ (19 มี.ค. 64) เวลา 13.00 น. ณ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารเอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เข้ายื่นหลักฐานสำคัญที่เคยส่งให้ศาลชั้นต้นแห่งกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชาเมื่อ 3 เดือนที่แล้วกับอัยการสูงสุด กรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ น้องชายถูกประทุษร้ายและบังคับสูญหายระหว่างอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยการเข้าพบอัยการครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกภายหลังกลับจากประเทศกัมพูชา เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวกับการสูญหายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงอัยการสูงสุด ให้ดำเนินการสอบสวนคดีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว แต่เมื่อทางการกัมพูชาได้แจ้งว่านายวันเฉลิมไม่ได้หายไปในขณะที่อยู่ในประเทศกัมพูชา ทางอัยการสูงสุดจึงได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว

ในการเข้าพบอัยการสูงสุดครั้งนี้นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ จะนำส่งพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อยืนยันว่านายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกบังคับให้สูญหายไปขณะที่อยู่ในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ดังที่ได้ให้ถ้อยคำและพยานหลักฐานไว้แก่ ศาลชั้นต้นแห่งกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 8 ธ.ค. 2563 เพื่อให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานอัยการสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป

การยื่นเอกสารและพบปะกับตัวแทนอัยการสูงสุดมีประเด็นที่สำคัญดังนี้

1. ขณะนี้ทางการกัมพูชาได้ปฏิเสธมาโดยตลอดเป็นเวลา 9 เดือน ว่าวันเฉลิมไม่ได้อยู่ในกัมพูชา และไม่มีเหตุการณ์อุ้มหายเกิดขึ้น การเดินทางไปกัมพูชาเมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 พยานหลักฐานมากมายที่ยืนยันได้ว่า วันเฉลิมอยู่ในกัมพูชาและถูกอุ้มหายเมื่อวันที่ 4 มิ. ย. ปีที่แล้วจริง แม้ทางการกัมพูชาได้ให้ข่าวในทางสาธารณะและได้ทำหนังสือแจ้ง UN หรือองค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะกับคณะกรรมการต่ออนุสัญญาการป้องกันไม่ให้บุคคลสูญหายนั้น ปฏิเสธว่าวันเฉลิมไม่ได้อยู่ที่กัมพูชา และไม่ได้ถูกอุ้มหาย จึงไม่เป็นความจริงส่วนองค์การสหประชาชาติที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีข้อมูลยืนยันว่าในวันและเวลาดังกล่าว มีเหตุการณ์อุ้มหายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ จริง

2. นางสาวสิตานัน ได้ยื่นพยานหลักฐานต่างๆ แก่ผู้พิพากษาไต่สวนของศาลชั้นต้นกรุงพนมเปญไปแล้วตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว ศาลแจ้งว่าจะแจ้งความคืบหน้าภายในหนึ่งเดือน แต่ทั้งทางนางสาวสิตานันและทนายความของเธอที่กรุงพนมเปญ ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าใด ๆ เลย

3. การมายื่นพยานหลักฐานต่างๆ แก่อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ทางอัยการสูงสุดรับดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย เนื่องจากเหตุการณ์การบังคับให้สูญหายของนายวันเฉลิม เกิดขึ้นในต่างประเทศ ในกรณีที่เกิดคดีอาญากับคนไทยในต่างประเทศ อัยการสูงสุดมีหน้าที่ประสานงานด้านคดี เพื่อคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ รวมทั้งวันเฉลิมด้วย อีกทั้งอัยการสูงสุดได้รับแจ้งจากทางการกัมพูชาว่า วันเฉลิมไม่ได้อยู่และถูกอุ้มหายในกัมพูชา จึงส่งเรื่องให้ดีเอสไอสอบสวน ทางนางสาวสิตานัน จึงมีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานของทางการไทยทุกระดับ โดยขอส่งพยานหลักฐานให้อัยการสูงสุด เพื่อยืนยันว่าวันเฉลิมอยู่และถูกอุ้มหายในกัมพูชา เพื่อให้อัยการสูงสุดติดตามคดี โดยประสานกับทางการกัมพูชา และให้อัยการร่วมสืบสวนสอบสวนกับดีเอสไอต่อไป

Related Posts

Send this to a friend