PUBLIC HEALTH

นายกฯ ห่วงสถานการณ์ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง เตือนดูแลตนเองขั้นสูงสุด อย่าการ์ดตก

โฆษกฯ เผย นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝากเตือนประชาชนให้ดูแลตนเองขั้นสูงสุด อย่าการ์ดตก สั่งขยายสายด่วน 1330 อีก 150 คู่สาย เพื่อส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา

วันนี้ (23 ก.พ. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ดูแลตนเองขั้นสูงสุด อย่าการ์ดตก กำชับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างทั่วถึง ไม่ให้เกิดการตกค้าง

ล่าสุด สปสช. ได้มีการขยายเพิ่มคู่สาย สายด่วน 1330 อีก 150 คู่สาย รวมเป็น 3,000 คู่สาย และได้เพิ่มช่องทางติดต่อผ่านไลน์ @NHSO เพื่อให้ผู้ป่วยกรอกข้อมูลและคอยเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ภายใน 6 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อให้เพียงพอต่อการรับรองจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น และเพื่อส่งต่อผู้ป่วยให้เข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ตรียมพร้อมโรงพยาบาลและจำนวนเตียงให้เพียงพอ เพื่อรองรับสถานการณ์ พร้อมให้บริหารจัดการระบบการรักษาทั้งระบบ HI/CI ให้เพียงพอต่อการรักษาพยาบาล

นายธนกร กล่าวว่า  ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนภัยโควิดระดับ 4 ที่มีคำแนะนำให้งดไปสถานที่เสี่ยง งดการรวมกลุ่มสังสรรค์ เน้นทำงานที่บ้าน และชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ถ้าไม่จำเป็น เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตราการอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะสามารถควบคุม ป้องกัน และชะลอการระบาดของโรคได้ 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 21,232 ราย ซึ่งเป็นยอดสูงที่สุดของปี 2565  จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 21,064 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 168 รายผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 39 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 173,605 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 16,662 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จำนวน 547,358 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 405,964 ราย

ขณะที่อาการหนักใช้ท่อช่วยหายใจ 229 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 229 ราย โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต นนทบุรี นครราชสีมา สมุทรสาคร ระยอง สุพรรณบุรี และบุรีรัมย์

Related Posts

Send this to a friend