ศบค.สั่งเปิด รพ.สนามทุกจังหวัด พร้อมเพิ่มสายด่วนรับแจ้งผู้ติดเชื้อ

ศบค.ยังไม่สั่งล็อคดาวน์ แต่สั่งเปิด รพ.สนามทุกจังหวัด พร้อมเพิ่มสายด่วนรับแจ้งผู้ติดเชื้อ

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ (21 ก.พ. 65) ว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากทั้งคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งสถานบันเทิง คลัสเตอร์โรงเรียน และจากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกินเลี้ยงสังสรรค์ จนล่าสุด ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา มีกว่า 166,000 คน บางส่วนได้จัดเข้าสู่ระบบ Home Isolation และศูนย์พักคอยแยกกักในชุมชน โดยต้องขอสงวนเตียงไว้ให้กลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาล

สำหรับทิศทางการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุว่า ยังไม่มีการพูดถึงมาตรการล็อกดาวน์ หรือระงับการเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ยืนยันไม่ปิดกั้นการเดินทาง แต่จะมีมาตรการรองรับเพื่อควบคุมโรค

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลที่เข้ามาระบบสาธารณสุขพบว่า ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ โดยกระทรวงให้ความสำคัญเรื่องระดับการป่วย ต้องสัมพันธ์กับการรักษา หากไม่มีอาการ ไม่มีโรคร่วม ให้รักษาที่บ้าน ในระบบ Home Isolation หากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ให้เข้ารักษาในระบบ Community Isolation ซึ่งทาง กทม. ประสานมาแล้วว่า มีความพร้อมในการดูแลจัดการ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการไปยังเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้เพิ่มคู่สายด่วนการรับแจ้งผู้ติดเชื้อเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หลังจากเหล่าทัพได้ปิดโรงพยาบาลสนามไปบางส่วนเพราะสถานการณ์คลี่คลาย แต่เมื่อมีการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จึงต้องปัดฝุ่นอีกครั้ง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม กำชับให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนามไว้รับมือกับสถานการณ์ และให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนในระดับพื้นที่ โดยประสานงานกับกระทรวงสาธารสุข ยืนยันว่าโรงพยาบาลสนามของเหล่าทัพที่กระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 7,000 เตียง และโรงพยาบาลสนามในส่วนของกองทัพ ยังดำเนินการอยู่