สธ.แจงไทม์ไลน์ หญิงติดเชื้อโอมิครอน รายแรกในประเทศไทย

สธ.แจงไทม์ไลน์ หญิงติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในประเทศไทย ติดจากสามีที่เป็นนักบิน สัญชาติโคลัมเบีย

วันนี้ (20 ธ.ค. 64) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองโรคระบาด แถลงกรณีพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในประเทศไทย โดยติดเชื้อจากสามีที่เป็นนักบิน สัญชาติโคลัมเบีย ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม มีประวัติโรคเบาหวาน โดยวันที่ 26 พ.ย. 64 ได้เดินทางจากไนจีเรียเข้าไทย ผ่านระบบ sandbox ที่กรุงเทพมหานคร ผลตรวจเบื้องต้น RT-PCR ไม่พบการติดเชื้อ จากนั้นได้อยู่ในระบบ sandbox ที่สามารถเดินทางออกนอกโรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับ 

ส่วนภรรยาเป็นคนไทย อายุ 49 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็มแล้วเช่นกัน มีประวัติเดินทางเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจตาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่พบเจอผู้อื่น มีประวัติไปซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม ทานข้าวเที่ยงที่ห้าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 

วันที่ 30 พ.ย. 64 อยู่ในโรงแรม 

วันที่ 1 ธ.ค. 64 เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 3 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เริ่มมีไข้ตัวร้อน จึงตรวจ ATK พบผลเป็นลบ 

วันที่ 2 ธ.ค. 64 ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ผลตรวจไวรัสอื่นให้ผลลบทั้งหมด ผลเอกซเรย์ปอดปกติ เมื่ออยู่ในระบบแซนบ็อกซ์ครบ 7 วันตามโปรแกรมของการกักตัวที่โรงแรม ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวได้กลับบ้านที่จังหวัดปทุมธานี อยู่กับภรรยา 

วันที่ 4 ธ.ค. 64 เริ่มมีอาการไข้ ไอเจ็บคอ อ่อนเพลียมากขึ้น ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบอยู่

วันที่ 7 ธ.ค. 64 อาการเริ่มเหนื่อยมากขึ้นแต่ยังมีสติ เดินทางได้ จึงไปโรงพยาบาลที่ฉีดวัคซีน ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก สรุป ภรรยาที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็อยู่กักตัวที่บ้าน และเมื่อ

วันที่ 10 ธ.ค. 64 ไปตรวจ RT-PCR เป็นบวก วันเดียวกันนั้นผลของสามีออกมาว่าเป็นโอมิครอน 

วันที่ 12-19 ธ.ค. 64 ภรรยาเข้าแอดมิด ต่อมาผลสงสัยว่าเป็นโอมิครอน จึงมีการตรวจหาโอมิครอนในภรรยาด้วย พบว่าเป็นโอมิครอนเช่นเดียวกัน และมีการยืนยันว่าเป็นโอมิครอนทั้งคู่ โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นคนขับแท็กซี่ 1 ราย ผลตรวจเป็นลบครั้งแรก ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 89 ราย ติดตามครบ 14 วัน ยังไม่พบอาการป่วย

นพ.จักรรัฐ เพิ่มเติมว่า ภรรยารายนี้เป็นคนแรกของเมืองไทยที่ติดเชื้อจากสามีที่เดินทางจากต่างประเทศ โดยเป็นการติดเชื้อโอมิครอนในประเทศ ส่วนผู้สัมผัสบนเครื่องบินของสามีรายนี้ไม่มี เนื่องจากนั้งห่างกันตามมาตรการ อย่างไรก็ตาม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของภรรยารายนี้คือคนขับแท็กซี่ ที่ขับไปส่งโรงพยาบาล เบื้องต้น อาการของสามีขณะอยู่โรงพยาบาล มีอาการเชื้อลงปอด อาการหนักขึ้น แต่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว