นายกฯ เปิดทางวัคซีนทางเลือก ให้เอกชนนำเข้าได้-ลดขั้นตอนนำเข้า ยืนยัน ทุกประเทศมีปัญหาเรื่องวัคซีน เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชน ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวทางการกระจายวัคชีน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังตัวเองจากเชื้อโควิด พร้อมชี้แจงที่บอกว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ตราบใดที่ควบคุมไม่ได้ทั้งหมด แต่เมื่อเกิดแล้วเราก็ต้องแก้ไขดำเนินการต่อไป ไม่มีปัญหาอะไรที่เกิดแล้วจะแก้ได้ทันที โดยเฉพาะเชื้อโรค ต้องมองไปอีกข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะโรคระบาดมีทุก 5 ปี 10 ปี วันนี้ตนให้ความสำคัญกับการแพร่ระบาด เมื่อมีการติดเชื้อมากขึ้นก็ต้องหารือพูดคุย

วันนี้ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมาพูดคุย ทำอย่างไรจะทำให้มีวัคซีนมาขึ้น โดยจะมีการแก้ไขระเบียบทั้ง อย. องค์การเภสัชกรรม ที่จะนำเข้าเป็นวัคซีนทางเลือก เพราะขณะนี้มีวัคซีนเฉพาะที่รัฐบาลนำเข้า จึงต้องไปหาวิธีการที่จะนำเข้า เพราะวันนี้วัคซีนที่นำเข้ามาเป็นวัคซีนฉุกเฉิน จึงได้ตั้งคณะกรรมการโดยให้นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค.เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน ซึ่งวัคซีนทางเลือกจะมีผลต่อโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะต้องคุยกับผู้ผลิต เพราะมีข้อกฎหมายต้องหารือกันให้เรียบร้อย โดยยินดีที่จะให้เอกชนจัดหาวัคซีนเอง ขณะนี้มีการจดทะเบียนหลายชนิด แต่การนำเข้ายังมีปัญหาอยู่ ต้องไปแก้ปลดล็อคว่าจะทำอย่างไร ไม่เฉพาะไทย แต่รวมถึงประเทศผู้ผลิตด้วย โดยวัคซีนนอกจากของรัฐจัดหา ก็จะมีวัคซีนภาคเอกชน นำเข้ามาเองด้วย ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

ในเดือนหน้าจะมีวัคชีนเข้ามาอีก 1 ล้าน 5 แสนโดส จากเดิมที่ฉีดไป 3 แสน 5 หมื่นโดส ซึ่งจากนี้ไปวัคซีนก็จะมาตามแผน เว้นแต่จะมีปัญหาที่ต้นทาง ซึ่งเป็นปัจจัยที่คุมได้ยาก เพราะวันนี้ติดเชื้อไปทั่วโลก สิ่งสำคัญวันนี้เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็ต้องหาวัคซีนเพิ่มขึ้นและบริหารการฉีดให้ได้ โดยจะต้องฉีด 40 ล้านคน ขณะที่วัคซีน หาได้ 35 ล้านโดส

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน พร้อมลดขั้นตอนการนำเข้าวัคซีน แต่ต่างประเทศไม่ลด เพราะมีมาตรฐานอยู่แล้ว วันนี้ทั้งโลกแย่งวัคซีนกันอยู่ ไทยไม่ได้ช้ากว่าประเทศอื่น ทุกประเทศมีปัญหาหมด แม้กระทั่งอินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนแอนตราเซเนการายใหญ่ของโลก ยังประสบปัญหา เพราะคนติดเชื้อมากขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทยก็มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ที่สำคัญต้องไม่เจ็บไม่ตาย รักษาให้ได้ และยืนยันมียาภายในประเทศเพียงพอ ส่วนวัคซีนสามารถป้องกันได้ แต่ไม่ 100% เป็นเพียงการเพิ่มภูมิต้านทานให้ติดเชื้อยากขึ้น ไม่ใช่ฉีดวัคซีนแล้วไปสถานที่อโคจร ก็ติดอยู่ดี

ส่วนปัญหาโรงพยาบาลเอกชนไม่รับตรวจ โควิด – 19 นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า เกิดจากสาเหตุเตียงของร.พ.เอกชนไม่เพียงพอ หากรับตรวจโควิด-19 เมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อก็ต้องรักษาทันที โดยนำผู้ป่วยมาอยู่ในโรงพยาบาล ยืนยันว่าขณะนี้เองโรงพยาบาลเอกชนสามารถตรวจโควิด-19 ได้ และมีน้ำยาเพียงพอ พร้อมอธิบายว่าหากรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั้งหมดจะไม่สามารถรักษาโรคปกติได้