PUBLIC HEALTH

กทม.-ปริมณฑล ยังอ่วมตัวเลขสูงต่อเนื่อง ชุมชนแออัด สถานที่เสี่ยงยังต้องเข้มมาตรการ

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ กว่าร้อยละ 50 อยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ส่วนใหญ่พบจากชุมชนแออัด สถานที่เสี่ยง เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด โรงงาน สถานประกอบการมากขึ้น ขอประชาชนการ์ดอย่าตกปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล สังคม

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 วันนี้ว่า จากรายงานสถานการณ์ วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,419 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,247 ราย จากต่างประเทศ 10 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 2,435 ราย และ มีผู้เสียชีวิต 19 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ กว่าร้อยละ 50 (1,641 ราย) มาจาก กทม. และปริมณฑล

ปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ กทม. ที่ต้องเฝ้าระวัง เช่นใน เขตคลองเตย ราชเทวี ปทุมวัน บางกะปิ จตุจักร ดอนเมือง ลาดพร้าว ดุสิต ยานนาวา บางทองหลาง ส่วนใหญ่จากการอยู่ในชุมชนแออัดขนาดใหญ่ ส่วนปริมณฑลส่วนใหญ่พบในโรงงาน ซึ่งมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้หากมีการติดเชื้อจะแพร่สู่คนในครอบครัวได้ง่าย จึงสั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพ ที่ 4, 5, 6 ซึ่งเป็นจังหวัดในเขตภาคกลางทและโดยรอบกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังจุดเสี่ยง เข้มงวดมาตรการป้องกันควบคุมโรคในโรงงานต่างๆ นำผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษา และจำกัดวงการระบาดให้ได้โดยเร็ว

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าร่วมการบริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ในกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้มีประชาชนประสานมายังสายด่วนต่างๆจำนวน 252 ราย ได้จัดการนำเข้าสู่ระบบแล้ว 133 ราย รอดำเนิน 97 ราย โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มีจิตอาสารับ-ส่งผู้ติดเชื้อ ใน 6 โซน กทม. จำนวน 85 ราย เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาตามระดับอาการที่เหมาะสม นอกจากนี้ขอทำความเข้าใจในประเด็นผู้ป่วยโควิด 19 อาการหนักที่กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานรายวัน ว่า กลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ป่วยที่มีอาการโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่เป็นกลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบ ปอดบวม ซึ่งต้องให้การรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิด

“ขอให้ประชาชนยังเข้มมาตรการป้องกันตนเอง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน หรือหากเป็นผู้ที่ต้องทำงานนอกบ้านเมื่อกลับบ้านให้รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หากเป็นไปได้ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และไม่นำตัวเองไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง รวมถึงเคร่งครัดการปฏิบัติตามมาตรการสังคม ได้แก่ การลดกิจกรรมชุมนุมสังสรรค์ ลดการเดินทางข้ามจังหวัดที่ไม่จำเป็น เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโควิด 19”นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว

Related Posts

Send this to a friend