PUBLIC HEALTH

อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันมีเตียงเพียงพอ รักษาผู้ป่วยหนัก หากผล ATK เป็นบวก โทร. 1330 ทันที

อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันมีเตียงเพียงพอรักษาผู้ป่วยหนัก ย้ำหากตรวจ ATK ผลเป็นบวกให้ โทร. 1330 ทันที มีทีมแพทย์คัดกรอง-ติดตามอาการใน 6 ชั่วโมง

วันนี้ (7 ม.ค. 65) นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เริ่มมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นนี้ว่าเป็น “ระลอกมกรา 65” ซึ่งแม้อาการของสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่รุนแรง อธิบดีกรมการแพทย์ระบุว่าอัตราการแพร่ระบาดอยู่ในภาวะที่ขึ้นแบบแนวดิ่ง (vertical) ซึ่งค่อนข้างน่าเป็นห่วง อาจจะขึ้นไปถึงกรณีร้ายแรงที่สุดที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ แต่ทางกรมก็หวังให้เป็นไปด้วยดีที่สุด ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมสำหรับกรณีร้ายแรงที่สุดด้วย (hope for the best, prepare for the worst) 

“มีตัวเลขผู้ป่วยยืนยันจากประมาณ 3,000 คน วันนี้พุ่งขึ้นมา 7,000 กว่าคนแล้ว ยังไม่รวมกับผู้ตรวจเชื้อด้วย ATK ที่คาดว่าคงถึง 10,000 คน การแพร่ระบาดจึงถือว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์นิดหน่อย”

อธิบดีกรมการแพทย์ ประเมินศักยภาพการรักษาพยาบาลจากฉากทัศน์การแพร่ระบาดที่จัดทำโดยกรมควบคุมโรคทั้งหมด 3 แนวทางความเป็นไปได้ ซึ่งยืนยันว่ามีความพร้อมต่อสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุด คือมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 30,000 คน/วัน 

“เรารับคนไข้ทั่วประเทศได้ถึง 50,000 คน ดังนั้น ที่กรมควบคุมโรคประเมินแย่สุด 30,000 คน จึงรองรับได้ไหว แต่อยู่ในเงื่อนไขที่ว่าไม่ใช่นำทุกคนเข้าโรงพยาบาล ใช้นโยบาย HI first CI first ซึ่งมีเกณฑ์การกักตัวที่บ้าน/เข้าสถานพยาบาลชัดเจน เราอยากเก็บเตียงที่โรงพยาบาลเอาไว้สำหรับคนที่จำเป็นต้องนอน หากไม่มีอาการมากให้อยู่บ้าน ถ้าอยู่บ้านได้ ถ้าอยู่บ้านไม่ได้ก็ไปอยู่ community isolation ซึ่งเมืองไทยพิสูจน์แล้วว่าทำได้ดี ทั้งระบบรักษาพยาบาล และการสวมหน้ากากอนามัย” 

อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันสำหรับผู้ที่ตรวจ ATK พบผลเป็นบวก ให้โทรศัพท์หมายเลข 1330 ได้ทันที 

“เรารับประกันภายใน 6 ชั่วโมงต้องมีทีมรักษาพยาบาลโทรกลับ คัดกรองอาการว่าอยู่บ้านได้หรือไม่ได้ ไม่ว่าจะของรัฐหรือเอกชน ไม่งั้นจะแบล็กลิสต์สถานพยาบาลนั้นไม่ให้รับเคสต่อไป นี่คือที่ตกลงกับเลขาฯ สปสช. เรายืนยันว่ามีทีมหมอพยาบาลเจ้าของไข้คอยโทรศัพท์ตามทุกวันและประสานกันเองได้ สำหรับ HI ให้ตรวจ ATK แต่ถ้าจะเข้า CI ก็ให้ใช้ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง ซึ่งผลบวกคลาดเคลื่อนก็มีน้อยมาก” 

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์

นพ.สมศักดิ์ ชี้แจงถึงกรณีแรงงานต่างด้าวที่มีประกันการรักษาพยาบาล ก็ให้เข้าระบบการรักษาได้ ส่วนที่ไม่มีประกัน อย่างแรงงานต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย ก็สามารถโทรศัพท์ที่หมายเลข 1330 ทางกรมก็ขอความร่วมมือ กทม. เตรียม community isolation อย่างน้อยโซนละ 1 แห่ง รวมเป็น 6 แห่ง 

นอกจากนี้ อธิบดีกรมการแพทย์ยังแนะนำข้อปฏิบัติสำคัญในช่วงการแพร่ระบาด ได้แก่

1. ใครยังไม่ได้รับวัคซีน ให้เข้าระบวัคซีนโดยเร็ว เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยหากติดเชื้อโควิด

2. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือสม่ำเสมอ และการเว้นระยะห่างทางสังคม

3. สังเกตสถานที่ที่ไปว่าเป็นไปตามมาตรการ COVID-free setting หรือไม่ และไม่ไปสถานที่เสี่ยง

4. สังเกตว่าตนเองไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีการประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อหรอไม่ ถึงแม้ไม่มีอาการ ก็ให้ตรวจ ATK ทันที 

5. สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ให้ตรวจ ATK ทันที หากมีอาการถึงผลเป็นลบ แต่ผ่านไป 3-5 วันก็ควรตรวจอีกครั้ง

6. ถ้า ATK มีผลเป็นบวก ใช้เวลากักตัวรักษาอาการ 10 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่จะไม่แพร่เชื้อแล้ว แต่ถ้า ATK มีผลเป็นลบ ก็ควรใช้เวลากักตัวสังเกตอาการนานขึ้น หรือคือ 2 สัปดาห์เช่นเดิม แต่จะมีการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญเร็ว ๆ นี้อีกครั้งถึงระยะเวลาที่เหมาะสม

“เราไม่อยากให้การแพร่ระบาดของเราขึ้นไปชันมากขึ้นเหมือนทางอเมริกาและยุโรป ยืนยันว่ามีเตียงรองรับเพียงพอ ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้ติดเชื้อไม่เกิน 50,000 คน และสังคมยอมรับนโยบาย HI first CI first” นพ.สมศักดิ์ ทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend