เลขาฯ สมช. เผย ล็อคดาวน์-เคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้ายหากหยุดแพร่ระบาดไม่ได้ ปัดตอบ ‘ทักษิณ’ ไม่ขอเสียเวลากับข่าวที่ไม่เป็นความจริง

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 7 วันข้างหน้าหากผู้ติดเชื้อยังมีตัวเลขที่ไม่ลดลงจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ ว่าในทุกครั้งที่ ศบค. กำหนดมาตรการออกมาจะฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะวิเคราะห์ว่าการแพร่ระบาดในแต่ละครั้งเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ส่วนการระบาดในระลอกที่ 3 นี้เกิดจากสถานบันเทิง หากครบ 14 วันจะมีการประเมินอีกครั้งว่า สาเหตุการแพร่ระบาดยังเกิดขึ้นจากอะไร และจะต้องเข้าไปป้องกันจากเหตุนั้น

สำหรับการปิดสถานบริการมีแนวโน้มจะเพิ่มระยะเวลาหรือไม่ ต้องฟังความเห็นจากกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง

ส่วนจะมีแนวโน้มไปถึงการล็อคดาวน์ หรือเคอร์ฟิว หรือไม่นั้น เลขาฯ สมช.เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน จึงให้นโยบายกับทาง ศบค.ว่า การกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องพยายามให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งมาตรการล็อคดาวน์ หรือเคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้าย ถ้าหากไม่สามารถหยุดยั้งได้จริง ดังนั้นในตอนนี้ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ยังกล่าวถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย ต้องป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ส่วนการเข้าประเทศแบบถูกกฎหมาย ได้สั่งการให้เข้มงวดในการตรวจคัดกรองมากขึ้น ซึ่งในส่วนสถานกักกัน สำหรับผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ทาง ศบค. ได้เพิ่มมาตรการติดตามและขอความร่วมมือหลังออกจากสถานกักกันแล้วไม่ควรสัมผัสผู้อื่นอีก 14 วัน เพื่อความรอบคอบในการป้องกันการติดเชื้อ

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดในคลับเฮ้าส์ ว่าประเทศไทยมีการนำเข้าวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งจะมีการดำเนินการในกรณีนี้อย่างไรบ้างว่า จะไม่เสียเวลากับข่าวไม่เป็นความจริง แต่จะพยายามสร้างความรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงให้กับประชาชน ที่ผ่านมา ศบค.ได้เชิญแพทย์และผู้มีคุณวุฒิเกี่ยวกับวัคซีนมายืนยันข้อมูลที่แท้จริงให้กับประชาชน

ส่วนปัญหาการฉีดวัคซีนในชุมชนคลองเตย ที่มีหัวคะแนนพรรคการเมืองไปจัดโควต้าในการฉีดวัคซีน เลขา สมช. กล่าวว่าได้รับทราบข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่สอบถามหน่วยงานในพื้นที่ได้ยืนยันว่าไม่มีเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้น แต่ในการประชุม ศปก.ศบค. ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เน้นย้ำให้การฉีดวัคซีนพิจารณาจากความเสี่ยงในการติดเชื้อเป็นลำดับแรก แต่หากยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็อาจจะให้ฝ่ายมั่นคงไปดูแล