PUBLIC HEALTH

ผู้ติดเชื้อ ปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต มีทิศทางเพิ่มขึ้นทั้งหมด

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศวันนี้ (6เม.ย.65) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,252 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 23,831 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 274 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 60 ราย และจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 87 ราย ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 26,941 ราย เมื่อรวมตัวเลขจาก 2 ระบบ มีผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ 51,193 ราย

มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตวันนี้ 94 ราย ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 25,697 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 248,078 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,845 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 24 คน อัตราครองเตียง ร้อยละ 27.8

พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต มีทิศทางเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ โดยช่วงสงกรานต์คาดว่าอาจมีโอกาสการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ จึงขอความร่วมมือให้เข้มงวดมาตรการ VUCA ได้แก่ การฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มกระตุ้น, ป้องกันตนเองตลอดเวลา ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ไม่ไปสถานที่แออัด เลี่ยงการรับประทานร่วมกัน , องค์กร/หน่วยงานใช้มาตรการ COVID Free Setting และตรวจ ATK เป็นระยะ ซึ่งจะช่วยลดไม่ให้ผู้ป่วยอาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิต เพิ่มขึ้น

สำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้เพียง 34.6% เฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุฉีดเข็มกระตุ้นได้ 37.2% ถือว่าความครอบคลุมยังน้อย โดยมีเพียง 7 จังหวัดที่ฉีดเข็มกระตุ้นกลุ่มผู้สูงอายุตามเป้าหมายได้มากกว่า 70% ได้แก่ น่าน นนทบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต มหาสารคาม ลำพูน และชัยนาท

Related Posts

Send this to a friend