‘กรณ์’ เสนอปลดล็อกให้เอกชนผลิต ‘ฟาวิพิราเวียร์’ ได้ คาดต้องใช้วันละ 1 ล้านเม็ด
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ว่า ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับการสร้างศูนย์พักคอยผู้ป่วยชุมชน เพื่อที่จะมีสถานที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในการแยกตัวไม่ให้แพร่เชื้อไปยังคนใกล้ชิด โดยพรรคกล้า ก็ได้ร่วมกับชุมชนเปิดศูนย์พักคอยผู้ป่วยไปแล้ว 4 แห่ง คือ ชุมชนลาดพร้าว101, ชุมชนเทพลีลา, ชุมชนวัดพระไกรสีห์(น้อย) และชุมชนมัสยิดดารุ้ล อิบาดะห์ (สุเหร่าสามวา) รวมทั้งรณรงค์ชี้แจงถึงประโยชน์ของการมีศูนย์พักคอยให้แก่ชุมชนที่เหลือ โดยได้ประสานยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอเชื่อมศูนย์พักคอยเข้าระบบของกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือเพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งตนก็หวังว่าจะตัดวงจรการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วขึ้น และพรรคกล้าพร้อมสนับสนุนชุมชนที่พร้อมทั้งจุดพักคอย
นายกรณ์ ยังกล่าวถึงปัญหาการฉีดวัคซีน โดยให้กำลังใจกับผู้ว่าฯ ซึ่งตามรายงานระบุว่าประชากรในกรุงเทพมหานครฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 50% ที่ผ่านมาอาจประสบปัญหาการเข้าไม่ถึงวัคซีนอย่างเพียงพอ ตนก็ยังยืนยันว่าวัคซีนคือคำตอบที่ดีที่สุด และทางผู้ว่าฯ ก็ได้รับทราบถึงปัญหาแล้ว
ส่วนเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์ นายกรณ์ กล่าวว่า หากผู้ป่วยรายไหนที่ต้องการยาฟาวิพิราเวียร์ ก็ขอให้รีบแจ้งทางกรุงเทพมหานครทันที แต่ประเด็นที่ตนเป็นกังวลคือ เกรงว่าจะขาดตลาดเพราะมีความต้องการจำนวนมาก โดยตนก็เสนอไปยังรัฐบาลว่า ขอให้เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนสามารถผลิตยาเองได้ เพื่อชดเชยกำลังการผลิตขององค์การเภสัชกรรม เพราะต่อไปในภายหน้าอาจมีความต้องการสูงถึงวันละ 1 ล้านเม็ด ดังที่ปรากฏก่อนหน้านี้ที่ทางองค์การเภสัชกรรมออกมาเตือนว่ายาใกล้หมด นั่นหมายถึงสัญญาณที่บ่งชี้ว่าระดับวิกฤตผู้ป่วยใกล้ถึงจุดสูงสุดหรือตัวเลขผู้ป่วยใหม่อาจอยู่ที่ราวๆ 20,000 คนต่อวัน
