เยอรมนีแนะฉีดวัคซีนโควิด-19 ‘เอ็มอาร์เอ็นเอ’ โดสที่ 2 ต่อจากแอสตราเซเนกา
เบอร์ลิน – เมื่อวันศุกร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ระบุระหว่างงานแถลงข่าวว่า ชาวเยอรมันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกาในโดสแรก ควรฉีดวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) เช่น วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) ต่อในโดสที่ 2
รัฐบาลเยอรมนีสนับสนุนคำแนะนำของคณะกรรมการถาวรด้านการฉีดวัคซีน (STIKO) ที่ได้รับการเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ซึ่งระบุว่าการจับคู่ฉีดวัคซีนต่างยี่ห้อ มีประสิทธิภาพสูงกว่าการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา 2 โดส “อย่างเห็นได้ชัด”
ชปาห์นระบุว่าการจับคู่ฉีดวัคซีนต่างยี่ห้อ “มีประสิทธิภาพสูง” พร้อมกล่าวย้ำว่าการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาทั้งสองโดสซึ่งเยอรมนีได้ฉีดให้ประชาชนไปแล้วราว 2.5 ล้านคน ก็สามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ดีเช่นกัน
สถาบันโรแบร์ตค็อก สถาบันวิจัยและสำนักควบคุมและป้องกันโรคของรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า มีชาวเยอรมันฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกือบ 31.5 ล้านคน เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) ทำให้อัตราการฉีดขยับขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 37.9
ชปาห์นระบุว่าศูนย์ฉีดทั่วประเทศยังไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการจับคู่ฉีดวัคซีนข้ามยี่ห้อได้ในทันที “แต่เราจะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว” โดยเขาระบุว่าเยอรมนีมีวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอในปริมาณเพียงพอ
สถาบันฯ ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในเยอรมนีลดต่ำต่อเนื่องในวันศุกร์ (2 ก.ค.) หลังตรวจพบผู้ป่วยเพิ่ม 649 รายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง น้อยกว่าสัปดาห์ก่อน 125 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่เกือบ 3.73 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 91,007 ราย เมื่อนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดใหญ่ขึ้นในเยอรมนีจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.ค.)
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
